life

เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมน้ำยาล้างจานสูตรมะนาวถึงครองตลาด และเราเองต่างก็คุ้นเคยกับกลิ่นมะนาวติดมือหลังล้างจานจนลืมตั้งคำถามถึงทางเลือกของกลิ่นอื่นๆ

ดังนั้น การได้เปลี่ยนมาลองใช้น้ำยาล้างจานกลิ่นมิ้นต์จึงเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่สร้างความสุขทางใจให้ทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบการล้างจาน ให้รู้สึกเป็น ‘บวก’ กับงานบ้านแขนงนี้ขึ้นมาทันที

และนอกจากกลิ่นที่แตกต่าง หน้าตาขาวคลีนสุดมินิมอลของขวดน้ำยาล้างจานยี่ห้อ Ringo ยังทำให้ซิงค์ล้างจานมุมเดิมที่ไม่มีใครอยากยืน ดูเก๋จนน่าไปเยือนขึ้นถนัดตา

ทั้งหมดนี้เป็นความตั้งใจของ เปิ้ล – ถนอมขวัญ ชุติธนวงศ์ เจ้าของ Ringo & Friends ที่เริ่มต้นคิดสูตรน้ำยาล้างเพื่อ ‘คนขี้แพ้’ ที่รักการล้างจานอย่างเธอ ทั้งยังต่อยอดเป็นร้านขายของชำที่แนบกลยุทธ์รักษาสิ่งแวดล้อมแบบไม่สุดโต่ง ไว้เป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภคไปในตัว

RingoandFriends
เปิ้ล – ถนอมขวัญ ชุติธนวงศ์
ผู้ก่อตั้ง Ringo & Friends

ตามหาสูตรน้ำยาล้างจานที่เป็นมิตรต่อมือ

“เริ่มจากอาการแพ้น้ำยาล้างจานก่อน ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนชอบล้างจาน ไม่ว่าจะไปเที่ยวประเทศไหนก็จะบ้าซื้อน้ำยาล้างจานมาจากทุกที่ แต่ใช้ยี่ห้อไหนก็มักจะแพ้ เกิดอาการคันและเป็นขุยอยู่นานเป็นชั่วโมงถึงจะหาย จนวันนึงเริ่มรู้สึกว่า ถ้าจะต้องทำผลิตภัณฑ์อะไรสักอย่างขาย อยากทำน้ำยาล้างจาน”

RingoandFriends

คิดได้ดังนั้น เจ้าสำนักออกแบบ Project No.143 ที่เป็นตัวแม่เรื่องการดีไซน์อยู่แล้ว จึงชวนเพื่อนๆ และน้องๆ ทีมงานมาระดมทดลองผลิตสูตรน้ำยาล้างจานของตัวเองขึ้นตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน จนได้น้ำยาล้างจานสูตรมิ้นต์กลิ่นหอมถูกใจ ให้ฟองกำลังดี ล้างคราบมันสะอาดหมดจด และไม่ขโมยความชุ่มชื้นไปจากผิว โดยเรียกขานตัวเองว่า Ringo ที่แปลว่า แอปเปิ้ล ในภาษาญี่ปุ่น สมชื่อผู้บุกเบิกแบรนด์

RingoandFriends

และด้วยวิญญาณนักออกแบบในตัวที่ชอบของสวยๆ งามๆ น้ำยาล้างจานของเปิ้ลจึงต้องมีเอกลักษณ์ชวนหยิบจับและน่ามอง บนพื้นฐานไอเดียง่ายๆ ว่าอยากใช้และอยากโชว์

“เราเป็นคนชอบของสวยงาม ดังนั้น ทำไมถึงจะไม่ทำขวดน้ำยาล้างจานให้วางโชว์ได้ล่ะ แล้วพอโชว์น้ำยาล้างจานได้แล้วก็ต้องโชว์น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาซักผ้าได้ด้วย” เปิ้ลเล่าถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดภายใต้แบรนด์ Ringo ที่ค่อยๆ แตกไลน์สินค้าเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันก็ทยอยหา ‘เพื่อน’ เพิ่ม จนเกิดเป็นร้านชำหน้าตาดีที่ชื่อ Ringo & Friends

RingoandFriends

เพื่อนๆ ของริงโกะ

เหตุผลที่เราเปรียบพื้นที่ขนาดกะทัดรัดของ Ringo & Friends เป็นร้านชำ เพราะภายในร้านจัดเรียงสารพันข้าวของเครื่องใช้ในบ้านจนเต็มชั้นวาง โดยนอกจากสินค้าหลักจะเป็นผลิตภัณฑ์ของริงโกะเองแล้ว ยังมีพันธมิตรเป็นของกินของใช้แบรนด์ไทยวางขายเป็นตัวเลือกที่เติมเต็มการใช้ชีวิตแบบครบวงจร โดยเกณฑ์ในการคัดของมาขายก็คือ จะต้องเป็นสินค้าที่ทางทีมริงโกะมั่นใจว่าดี เพราะรู้จักตัวตนของผู้ผลิต ทำให้รู้ที่มาที่ไปของกระบวนการผลิตแต่ละขั้นตอน จนมั่นใจได้ในความตั้งใจจริงของคนทำและคุณภาพของสินค้า

RingoandFriends

“อย่างเช่น ข้าวสาร เราเลือกข้าวจากกลุ่มผูกปิ่นโตข้าวอำนาจเจริญ เพราะเรารู้ว่าเขามีกระบวนการปลูกที่ดี เคลียร์พื้นดินก่อนปลูก หรือเกลือก็เลือกจากคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจลงมือทำจริงๆ โดยในทีมจะคุยกันบ่อยๆ ว่าอะไรเหรอที่แปลว่าปลอดสาร แล้วเราจะเชื่อเขาได้ยังไง สุดท้ายเราเลือกที่จะเชื่อคนที่เป็นเพื่อนเรา และเชื่อเพื่อนต่อๆ กันไปเรื่อยๆ แต่เราจะไม่เชื่อคนที่แค่มาบอกว่าสินค้านี้ดี เพราะเราพิสูจน์ไม่ได้ ดังนั้น ของทุกอย่างที่วางขายใน Ringo & Friends จึงมีที่มาที่ไปทุกชิ้น”

RingoandFriends

ที่มาที่ไปที่เปิ้ลพูดถึงสามารถอ่านได้ทาง facebook.com/ringoandfriends.th ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าของพริกแห้ง ซีอิ๊ว น้ำปลา สบู่น้ำมันมะพร้าว ไปจนถึงน้ำเต้าหู้ ที่เปิดเผยทุกกระบวนการอย่างได้อรรถรส จนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนตัดสินใจจบการนั่งมองแค่หน้าจอ แล้วออกเดินทางไปซื้อของที่ร้านชำแห่งนี้ด้วยตัวเอง

RingoandFriends

RingoandFriends

เพื่อนๆ ของริงโกะจะมี 2 แบบ แบบแรกคือ แต่งตัวมาเองเสร็จสรรพ อย่างซีอิ๊วขาวหมักจากมะพร้าว Seasons, น้ำปลาแท้ตราสามกระต่าย, ซีอิ๊วดำหวาน-เค็มจากตลาดน้อย, น้ำพริกกำกิ๋นสูตรเมืองแพร่ ฯลฯ ที่จะได้รับสร้อยคอรูปแอปเปิ้ลแดง แขวนไว้แทนสัญลักษณ์ Friends of Ringo

RingoandFriends

ส่วนอีกแบบคือ เพื่อนที่ริงโกะอาสาแต่งตัวให้ใหม่ เพื่อคุมโทนให้เข้ากับธีมของร้าน เช่น ข้าวสาร, สบู่ก้อนทำจากน้ำมันมะพร้าว, เกลือ ฯลฯ ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้น่าหยิบจับมากขึ้น ซึ่งเป็นสูตรเดียวกับที่ริงโกะตั้งใจออกแบบทุกบรรจุภัณฑ์ให้สวย เพื่อที่ผู้บริโภคจะได้ไม่อยากทิ้ง และอยากนำขวดใบเดิมมาเติมน้ำยาต่างๆ กลับไปใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ

RingoandFriends

รักษ์โลกแบบไม่สุดโต่ง

“เราไม่ได้เป็นแบรนด์สุดโต่งในเรื่องของการรักษ์โลก สำหรับเราความสวยงามมาก่อน สุดท้ายคือ คิดให้ดี แล้วตั้งใจทำให้ดีที่สุด นี่คือความสุขของการใช้ชีวิตมากกว่า เพราะฉะนั้นที่ร้านจะบอกลูกค้าทุกคนว่า จะซื้อขวดของที่ร้าน หรือเอาขวดมาเองก็ได้นะคะ ถ้าฉลากเดิมเก่าแล้ว อยากฉีกสติ๊กเกอร์ออก แล้วแปะสติ๊กเกอรใหม่ ทางร้านก็ยินดี แต่ถ้ามีใครมาบอกว่าสติ๊กเกอร์เป็นสิ่งที่ทำลายโลก เราก็จะแนะว่า แต่แปะแล้วขวดสวย น่าใช้ขึ้นนะคะ ทำให้อยากใช้ขวดรีฟิลมากขึ้น” เปิ้ลเล่าถึงการทำร้านรีฟิลแบบทางสายกลางให้ลูกค้าใหม่เข้าใจกระจ่างยิ่งขึ้น

RingoandFriends

RingoandFriends

“ถ้าขวดสวย เขาก็ไม่อยากทิ้ง เราเลยดีไซน์ภาชนะรีไซเคิลหรือฉลากต่างๆ ให้ดูน่าสนใจ ถือเป็นกระบวนการหลอกล่ออีกช่องทางนึงให้คนอยากเก็บของไว้ใช้นานๆ นี่คือวิธีคิดของเรา”

และไม่ใช่แค่สวยแต่รูปเท่านั้น ส่วนผสมของน้ำยาแต่ละประเภท ยังใส่ใจต่อตัวผู้บริโภค แม้จะไม่ถึงขั้นเป็นแบรนด์ออร์แกนิกจ๋า แต่ก็ถือเป็นเคล็ดลับผูกปิ่นโตทางใจที่ทำให้ริงโกะขยายฐานแฟนคลับได้ในระยะยาว ยกตัวอย่าง น้ำยาล้างจานสูตรมิ้นต์ที่นอกจากผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติ ยังไม่มีทั้งสารกันเสีย Paraben และสารลดแรงตึงผิว  SLS จึงไม่ทำให้เกิดอาการแพ้

RingoandFriends

ส่วนสบู่เหลวสำหรับอาบน้ำและล้างมือ โลชั่นบำรุงผิว ยาสระผม และครีมนวดผม เป็นผลิตภัณฑ์จาก Calm Spa สปาชื่อดังย่านอารีของเปิ้ลเอง ที่ลูกค้าขาประจำติดอกติดใจ และเรียกร้องอยากจะซื้อกลับไปใช้ที่บ้าน เธอจึงรวบทุกรายการ ‘น้ำยา’ สูตรเฉพาะตัวมาขายไว้ที่นี่ทั้งหมด ทั้งหมวดทำความสะอาดบ้านและทำความสะอาดร่างกาย โดยจะซื้อขวดใหม่หรือเอาขวดเก่ามาเติมก็ไม่มีคำว่าผิดกติกา

“เราคิดว่าถ้ามัวแต่สุดโต่งจนเกินไป คงไม่มีความสุขในการใช้ชีวิตภายใต้บริบทสังคมของประเทศเรา ที่ยังไม่สามารถรีไซเคิลได้ถึงขนาดนั้น แต่เราก็เลือกใช้พลาสติกที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ในระดับหนึ่ง และที่มุมหนึ่งของร้านก็ทำเป็นโซนแยกขยะก่อนทิ้ง โดยหน้าตาต้องสวยงาม ไม่ใช่ยกลังมาตั้ง คือ คิดให้ดี ทำทุกกระบวนการให้ดี แต่ไม่สุดโต่ง”

RingoandFriends

พิกัดไม่ลึก แต่ลับ

ในส่วนของทำเลที่ตั้งร้าน เปิ้ลก็ให้ความสำคัญไม่แพ้ตัวสินค้า “เราเริ่มมองหาพื้นที่เล็กๆ ที่ต้องแอบๆ นิดนึง แต่ไม่ได้แอบจนอยู่ไกลมาก แค่พอให้ได้เกิดการค้นหาเล็กน้อย จนมาเจอที่ตรงนี้ ซึ่งใกล้กับ co-incidence จนสามารถเดินไปเดินมาระหว่างสองร้านได้”

RingoandFriends

คนรักกาแฟและงานดีไซน์น่าจะคุ้นตากับแบรนด์ co-incidence มาก่อน ชื่อนี้เป็นทั้งสเปซและตราสินค้าที่ผลิตเครื่องเขียนและข้าวของดีไซน์ดี ที่เปิ้ลตั้งใจให้เป็น OTOP สัญชาติไทย ที่เหมาะจะทำหน้าที่ของฝากที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับไทยแลนด์ได้อย่างสมภาคภูมิ และในฐานะที่ co-incedence เกิดก่อน จึงเป็นเหมือนพี่สาว ที่มีน้องสาวอย่าง Ringo & Friends ตามมาอยู่ใกล้ๆ กัน

RingoandFriends

ทั้งสองร้านตั้งอยู่บริเวณต้นซอยสุขุมวิท 49 ในระยะห่างจากรถไฟฟ้าทองหล่อพอให้เดินออกกำลังได้สบายๆ เหงื่อไม่ทันซึม ทั้งยังได้อารมณ์ผจญภัยหาขุมทรัพย์นิดๆ ตรงที่ต้องเดินเข้าในซอยเล็กซอกหลืบพอประมาณ ถึงจะเจอกับสเปซที่อุดมด้วยข้าวของดีไซน์ดี ฟังก์ชั่นเด่น ที่ผ่านการคิดมาแล้วเป็นอย่างดีในทุกกระบวนการ

“การต่อยอดสูงสุดของแบรนด์เราคือ อยากเป็นแบรนด์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรับรู้ว่าคนไทยมีแบรนด์ไทย และสินค้า OTOP ไม่ได้มีแต่แบบเดิมๆ ที่เขาเคยเห็น ยังมี OTOP อีกรูปแบบอย่างเราที่อยากให้เขาได้ทำความรู้จัก” เปิ้ลนิยามทุกผลิตภัณฑ์ที่เธอทำว่าเข้าข่ายสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ในดีไซน์ที่ร่วมสมัยมากขึ้น

นอกจากนี้ หลังจากเริ่มทำร้าน Ringo & Friends ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงบางพฤติกรรมในตัวเองที่เปิ้ลอยากให้ค่อยๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ในตัวเพื่อนๆ ของริงโกะด้วยเช่นกัน

RingoandFriends

“เมื่อก่อนเราไม่เคยสนใจเรื่องของการแยกขยะ แต่พอตัวเองเปิดร้านแบบนี้ ก็เหมือนเป็นสำนึกว่า มึงจงทำ” เธอหัวเราะคั่นจังหวะการตื่นรู้ที่เกิดขึ้น “จากเดิมเคยทิ้งขยะแบบรวมกันไปหมดทุกอย่าง เดี๋ยวนี้เริ่มแยกขวดน้ำ แยกขยะเปียก แต่ยังไม่ถึงขั้นเหมือนคนญี่ปุ่นที่แยกขยะ 7 ถัง ซึ่งเราก็หวังว่าคนที่มาซื้อของเราไปใช้จะเริ่มคิดแบบนี้ อย่างน้อยข้าวของเครื่องใช้ที่ออกแบบมาดีอาจจะทำให้เราเริ่มคิดดีได้นิดนึง” 

“ขอแค่เริ่มคิดดี อยากใช้ชีวิตให้ดี แล้วจะมีความสุขเอง” เธอย้ำด้วยรอยยิ้ม

  • Ringo & Friends ซอยสุขุมวิท 49 วัฒนา กรุงเทพฯ LINE: @ringo.homegoods FB: Ringo & Friends เปิดบริการวันศุกร์ – วันอาทิตย์ เวลา 11.30 – 19.00 น.