life

เรียนรู้เรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมผ่านกะเพราจานละ 20 บาท แห่งร้านยักษ์ใหญ่ใจดี

เหตุผลที่ทำให้ข้าวราดกะเพรามีสถานะเป็นอาหารตามสั่งยืนหนึ่งใจในคนไทย คงเพราะทำง่าย ใช้วัตถุดิบแค่ไม่กี่ชนิด ก็สามารถผัดออกมาได้รสชาติจัดจ้าน ถูกปาก จบหนึ่งอิ่มได้แบบไม่ยุ่งยาก

เราเพิ่งจะมารู้สึกยุ่งยากกันในยุคหลังๆ มานี้เอง ที่เริ่มหากะเพราแท้ๆ ผัดเนื้อสัตว์ให้เข้ากับพริกและใบกะเพราล้วนๆ ไม่มีถั่วฝักยาวหรอข้าวโพดอ่อนปน กินได้ยากเต็มที

ไหนยังมีเรื่องของผงชูรส ผักปนเปื้อนสารเคมี และการใช้น้ำมันไม่อิ่มตัวในการผัด ส่งผลให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว

ทำให้การกินอาหารตามสั่งนอกบ้านแต่ละจาน กลายเป็นการสะสมพิษเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว

ดังนั้น เมื่อ becommon เจอพิกัดร้านกะเพรารสชาติดี ในราคาสบายกระเป๋าเพียงจานละ 20 บาท แถมยังอัดแน่นด้วยคุณค่าที่ล้นเกินราคา เราจึงอยากแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ “ยักษ์ใหญ่ใจดี” โดยทั่วกัน

YakyaiJaidee

น้ำมันมะพร้าว ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และโอโซน: 3 ประสานที่ต้องใช้ให้เป็น

กะเพรายักษ์ใหญ่ใจดี ปักหมุดสาขาแรกบนถนนพุทธมณฑลสาย 2 จากความตั้งใจของ รุจน์ สุวรรณเสรีเกษม ที่ต้องการขายอาหารริมทางที่ใช้วัตถุดิบดีในการปรุง และขายในราคาที่ใครก็กินได้

โดยเขาปิ๊งไอเดียนี้หลังจากร่วมตั้งโรงทานในงานพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 บริเวณท้องสนามหลวง และสังเกตเห็นว่า อาหารส่วนใหญ่ที่นำมาปรุงแจกประชาชนเป็นอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการมากพอ

YakyaiJaidee
รุจน์ สุวรรณเสรีเกษม
เจ้าของร้านกะเพรายักษ์ใหญ่ใจดี

“อยู่บ้านกินอย่างไร ก็อยากให้คนอื่นได้กินแบบนั้น” คือแนวคิดง่ายๆ ที่ผุดขึ้นในใจเขาทันที 

อาหารที่รุจน์และครอบครัวกินที่บ้านจะใช้น้ำมันมะพร้าวในการผัดและทอด โดยไม่ใส่ผงชูรส ข้าวที่กินคือ ข้าวหอมมะลิผสมข้าวไรซ์เบอร์รี่ ส่วนเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ ต้องผ่านการล้างสารพิษด้วยโอโซนก่อนนำมาปรุงอาหารเสมอ 

และองค์ประกอบเหล่านี้ก็ได้กลายมาเป็นหัวใจหลักในกะเพราทุกจานของร้าน ยักษ์ใหญ่ใจดี

YakyaiJaidee

แน่นอนว่าปัจจัยที่เอื้อให้รุจน์สามารถเนรมิตร้าน ยักษ์ใหญ่ใจดี ตามสเปคในฝันขึ้นมาได้ทันที เป็นเพราะเขามีต้นทุนทุกอย่างในมืออยู่แล้ว ทั้งสถานที่อย่างอาคารพาณิชย์บนถนนพุทธมณฑลสาย 2 และวัตถุดิบหลักอย่างน้ำมันมะพร้าว หนึ่งในธุรกิจด้านสุขภาพที่รุจน์เป็นเจ้าของ และคลุกคลีในอุตสาหกรรมนี้มานานกว่า 10 ปี ควบอีกหนึ่งสถานะของการเป็นคณะกรรมการชมรมอนุรักษ์และพัฒนาน้ำมันมะพร้าวแห่งประเทศไทย

รวมถึงประสบการณ์ในการดูแลและรักษาตัวเอง หลังจากเคยต้องทุกข์ทรมานจากการเป็นโรคสะเก็ดเงินนานหลายปี

จากที่เคยต้องพึ่งพาการกินยาโดยแพทย์แผนปัจจุบัน จนแทบป่วยเป็นโรคไตเพิ่มอีกโรคจากการกินยามากเกินไป รุจน์จึงเริ่มหันมาศึกษาด้านแพทย์ทางเลือกเพิ่มเติม จนพบว่ากุญแจในการรักษาโรคภัยเกี่ยวกับภูมิแพ้อันเกิดจากการแพ้ภูมิของตัวเอง อยู่ในอาหารที่กินนั่นเอง

YakyaiJaidee

นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญของความมุ่งมั่นในการกระจายแนวความคิดของการปรุงอาหารที่ดีมีคุณภาพ ให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคเองได้ตระหนักถึงสิ่งที่กินเข้าไปในแต่ละมื้อมากยิ่งขึ้น

“ผมอยากจะให้ผู้ประกอบการสตรีทฟู้ดมีความคิดว่า อย่าใช้น้ำมันไม่ดีในการปรุงอาหาร คุณลองเปลี่ยนมาใช้น้ำมันที่ดีกว่านี้หน่อยได้ไหม หรือถ้าขายส้มตำ ก็ล้างผักและเนื้อสัตว์ผ่านโอโซนก่อน หรือลองไม่ใช้ผงชูรสดู จะได้ปลอดภัยต่อผู้บริโภค 

“ซึ่งเครื่องโอโซนก็ตัวละ 2,000 กว่าบาท ใช้ได้นาน 3-4 ปี ถ้าเราแคร์สังคมนิดนึง ก็จะทำให้ผู้บริโภคมีชีวิตที่ดีขึ้น

“และผมยังพยายามส่งต่อแนวความคิดนี้ เพื่อถามไปยังผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ว่าคุณเอาเปรียบสังคมเกินไปรึเปล่า กินรวบเกินไปไหม คุณสามารถแบ่งปันให้สังคมได้อย่างไรบ้าง นี่คือแนวคิดที่ผมอยากส่งต่อ” 

นอกเหนือไปจากสาส์นสู่ผู้ประกอบการ และการส่งต่ออาหารจานเดียวคุณภาพคับจานในราคา 20 บาท รุจน์ยังลงมือกระจายความสุขให้หลายคนได้อิ่มท้องแบบฟรีๆ อีกด้วย

Pay It Forward ผ่านข้าวราดกะเพรา

มากไปกว่าการขายกะเพราจานละ 20 บาท ในราคาต่ำเตี้ยเรี่ยทุน รุจน์ยังควักกระเป๋าออกเงินให้คนที่ไม่มีกำลังทรัพย์ ได้กินข้าวราดกะเพราฟรีอีกวันละ 50 จาน ผ่านคูปองใบละ 20 บาท ที่ติดอยู่บนกระดานส่งต่อความสุข ให้คนที่ไม่มีสตางค์หยิบไปแลกกะเพรากินฟรีได้ 1 จาน

แนวคิดในแบบ Pay It Forward ที่ฝรั่งทำได้ แต่คนไทยทำใครขึ้นมาทั้งที มีแต่คนค่อนขอดว่า ไปไม่รอดหรอก

“แม้แต่ลูกชายของผมเองยังบอกว่า ป๊าเปิดแค่ 6 เดือน ก็เจ๊งแน่นอน ผมเลยบอกว่า ไม่เป็นไร เจ๊งก็ให้มันเจ๊งไป เราแค่อยากจะส่งความคิดของเราไปสู่สังคม” หนุ่มใหญ่วัย 56 ปี เล่าด้วยรอยยิ้ม เมื่อย้อนนึกไปถึงจุดเริ่มต้นเมื่อครั้งก่อตั้งร้านในเดือนสิงหาคม ปี 2561

YakyaiJaidee

“ช่วงแรกๆ ที่เริ่มทำ ผมก็ลงเงินส่วนตัวไปวันละ 1,000 บาท เพื่อซื้อคูปองติดบนกระดานส่งต่อความสุข แต่ช่วงแรกยังไม่ค่อยมีคนใช้เท่าไร เพราะเขายังไม่เข้าใจคอนเสปท์ ทางร้านก็เลยรวบรวมมูลค่าคูปองที่เหลือ นำไปช่วยบ้านพักคนชรา บ้านคนตาบอด ฯลฯ เป็นประจำทุกเดือน 

“จนระยะหลังลูกค้าของร้านเริ่มเข้าใจมากขึ้น และช่วยซื้อคูปองมาติดเพิ่ม เลยกลายเป็นหน้าที่ของเราในการรวบรวมคูปอง เพื่อนำไปช่วยเหลือสังคมต่อไป”

YakyaiJaidee

และล่าสุดเมื่อต้นปี 2563 นี้ ยักษ์ใหญ่ใจดีก็ได้เขยิบเข้ามาส่งต่อความสุขในย่านพระนคร ด้วยการเปิดยักษ์ใหญ่ใจดี สาขา 2 ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีสามยอด ในรูปโฉมสวยหรู ดูแพง แต่ยังขายกะเพรา (รวมถึงแจกฟรี) ในราคาจานละ 20 บาทเท่าเดิม

ยักษ์ใหญ่แห่งสามยอด

สไตล์การตกแต่งของยักษ์ใหญ่ใจดี สาขาสามยอด ซึ่งอยู่บนชั้น 2 ของอาคารพาณิชย์เก่าแก่บนถนนเจริญกรุง ได้รับการออกแบบและตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศเมืองเก่าของเกาะรัตนโกสินทร์

YakyaiJaidee

โดดเด่นด้วยโทนสีอบอุ่นของพื้นไม้เก่าซึ่งเป็นวัสดุดั้งเดิม เพิ่มเติมคือ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่ผสานความโมเดิร์นให้เข้ากับกลิ่นอายเก่าแก่อย่างลงตัว

ซิกเนเจอร์ในสาขาแรกอย่างภาพวาดลายเส้นเป็นรูปยักษ์ใหญ่ใจดีกับกะเพราจานโต และแผนที่รอบเมืองพระนคร ยิ่งช่วยแต้มผืนผนังให้มองเพลินอย่างมีนัยยะไปในตัว

YakyaiJaidee

มากกว่านั้น คือ รายการอาหารที่มีความพรีเมียมมากขึ้น โดยเพิ่มเมนูอื่นนอกเหนือจากข้าวราดกะเพราเข้าไป โดยเขยิบราคาให้สูงกว่า 20 บาท แต่ยืนยันว่าราคาต่อจานไม่สูงเกินมูลค่าธนบัตร 100 บาทแน่นอน

ต่อให้พกแบงค์ร้อยมาแค่ใบเดียว ก็อิ่มพุงกาง แบบมีเงินทอนติดกระเป๋ากลับบ้านให้อุ่นใจ

YakyaiJaidee
ข้าวหมูย่างน้ำจิ้มแจ่ว

เมนูที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็อย่างเช่น ข้าวหมูย่างจิ้มแจ่ว ที่เลือกใช้เนื้อหมูส่วนสันคอที่หมักมาเป็นอย่างดีก่อนย่างบนเตา โรยด้วยข้าวคั่วสมุนไพร เสิร์ฟพร้อมผักต้มและน้ำจิ้มแจ่วสูตรลับของทางร้าน กินกับข้าวหอมมะลิผสมข้าวไรซ์เบอร์ี่ร้อนๆ อร่อยควันฉุย

YakyaiJaidee
กะเพราขาเห็ดหอมราดข้าว โปะไข่ดาว

หรือยืนหนึ่งอย่างกะเพราก็มีการพัฒนาสูตรอยู่เรื่อยๆ จนเกิดเป็นเมนูกะเพราพ่นไฟพริกแห้งโบราณ ที่จัดจ้านกว่าผัดกะเพราทั่วไป เพราะเป็นการผัดกะเพราหมูสับแบบโบราณให้เข้ากับพริกแห้ง จึงให้ดีกรีเผ็ดร้อนเบอร์แรง เพิ่มไข่ดาวสักฟองจะช่วยทอนรสเผ็ดให้กลมกล่อมขึ้นกว่าเดิม

เพิ่มเติมคือ เมนูขนมหวานหยิบทานง่าย อย่างขนมปังเนยสดไส้ชาไทยและสังขยาใบเตย ที่มั่นใจได้ว่าใช้เนยสดแท้ๆ และปิ้งขนมปังแบบกรอบนอก นุ่มใน ไส้เยิ้ม แต่ไม่เยอะจนเกินพอดี

YakyaiJaidee
ขนมปังเนยสดไส้ชาไทย – สังขยาใบเตย

“พอเพียง พอใจ ปลอดภัย แบ่งปัน รักษ์โลก” คือสโลแกนของร้านกะเพรายักษ์ใหญ่พอเพียง ร้านอาหารจานเดียวที่สนับสนุนให้หนึ่งอิ่มมีคุณค่าทั้งต่อตัวคุณเองและผู้อื่น

YakyaiJaidee

ยักษ์ใหญ่ใจดี สาขาพุทธมณฑลสายสอง โทร 062-007-1991 เปิดบริการทุกวัน เวลา 7.00 – 16.00 น. 

ร้านยักษ์ใหญ่ใจดี สาขาสามยอด ตรงข้ามรถไฟฟ้า MRT สถานีสามยอด โทร 099-702-0792 เปิดบริการวันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 9.00 – 17.00 น. ปิดวันอาทิตย์