รู้จัก ‘ทิพย์รส’ ไหม?
ใครตอบว่า “รู้จัก” เราขอเดาว่า ถ้าไม่เกิดและเติบโตในย่านเตาปูน
ก็ต้องเคยใช้ชีวิตอยู่แถวนั้น
เพราะ ทิพย์รส คือร้านไอศกรีมไทยระดับตำนานย่านเตาปูน ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนเก่าแก่ของกรุงเทพมหานคร ที่หนาแน่นไปด้วยคนไทยเชื้อสายจีน และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยของกินรสเลิศ
ปัจจุบันร้านไอศกรีมแห่งนี้ที่เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ.2513 ยังคงเสิร์ฟไอศกรีมที่มีรสชาติอันแสนวิเศษสมชื่อร้านให้คนย่านนี้ได้คลายร้อนมาตลอดห้าสิบปี
คำถามคือ ทำไมไอศกรีมไทยๆ แบบทิพย์รสถึงยังคงอยู่และไม่หายไป
ในฐานะคนชอบกินและสนใจค้นหาคำตอบที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความอร่อย เราจึงจัดการชิม (จนอิ่ม) และสอบถามข้อมูลจากเจ้าของร้าน ทายาทรุ่นที่ 3 จนได้พบคำตอบ ซึ่งพอสรุปได้ 3 ข้อ ดังนี้
1. วัตถุดิบแท้จากธรรมชาติ
‘เนื้อละมุน รสเข้มข้น’ ถือเป็นเสน่ห์ของไอศกรีมทิพย์รส ที่ไม่มีใครเหมือน ซึ่งเกิดจากความตั้งใจที่จะทำไอศกรีมอย่างซื่อตรงและเรียบง่าย ด้วยการเลือกใช้ ‘ของดี’ มาทำไอศกรีม
อย่างไอศกรีมกะทิ ก็ใช้กะทิคั้นสดจากมะพร้าวทับสะแก ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหวาน ความหอม และความมัน
หรือไอศกรีมทุเรียน จะคัดพิเศษเฉพาะทุเรียนหมอนทองที่สุกได้ที่ ซึ่งกำลังส่งกลิ่นและออกรสกำลังดี
2. ผลิตตามออเดอร์แบบโฮมเมด
ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ทุกๆ ครั้งที่ทานไอศกรีม จะพบกับความอร่อยของไอศกรีมที่สดใหม่อยู่เสมอ
3. ให้เยอะจุใจ สมราคา
ที่สำคัญคือ ร้านไอศกรีมแห่งนี้ไม่เคยหวงปริมาณสักนิด ประกอบกับเครื่องเคียงไทยนานาชนิดที่คัดสรรมาให้เลือกอย่างจุใจ ทั้งลูกชิด เยลลี่แดง ข้าวเหนียวมูน มะม่วงเชื่อม มะยมเชื่อม เม็ดบัวเชื่อม ซุปข้าวโพด และไข่แดงสดแช่แข็งที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
10 เมนูใหม่ที่ต่อยอดจากรสชาติระดับตำนาน
พ.ศ. 2562 ทิพย์รส ภายใต้การดูแลของรุ่นที่ 3 ตัดสินใจพาร้านไอศกรีมที่บุกเบิกโดยรุ่นอากงก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ ด้วยการสร้างสรรค์มรดกทางรสชาติให้ร่วมสมัย ใส่ความโบราณผสมกับวิถีชีวิตในโลกยุคใหม่ ผสานความเป็นไทยเข้ากับนานาชาติ จนได้ 10 เมนูไอศกรีมที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
โลกเปลี่ยน ไอศกรีมปรับ แต่ความอร่อยยังคงเดิม
สองเรื่องแรก ประสบการณ์ที่ผ่านมาและภาพที่เห็นต่อไปนี้คงบอกคุณได้ แต่เรื่องสุดท้าย จะรู้ได้ต้องลองเอง
วิจิตรไข่ฝอย หมี่กรอบส้มซ่า
เมนูที่ผสมผสานความอร่อยไว้อย่างลงตัว กลิ่นหอมของไข่ฝอยหอมกรุ่น โรยอยู่บนไอศกรีมกะทิรวมมิตรทีเด็ดของทางร้าน รายล้อมด้วยหมี่กรอบส้มซ่ารสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน ที่นิยมทานกันอย่างมากในสมัยรัชกาลที่ 5
หอมหมื่นไมล์
กลิ่นหอมของขนมปังปิ้งเนยสดร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมกับซอสใบเตยเมเปิ้ลที่ส่งกลิ่นหอมของใบเตยชวนให้ลิ้มลอง และทานกับไอศกรีมนมสดรสชาติละมุนลิ้น
จตุมงคลจารึก
จตุมงคลจารึก เล่าเรื่องราวความเป็นไทยผ่านขนมไทย 4 ชนิดแรก ประกอบไปด้วย ไข่กบ นกปล่อย บัวลอย อ้ายตื้อ ที่มีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ถูกบันทึกไว้ในศิลาจารึก และนิยมเสิร์ฟในงานเลี้ยงประเพณีโบราณ เพื่อความเป็นสิริมงคล เรียกรวมว่า กินสี่ถ้วย หรือ ประเพณีสี่ถ้วย
ในสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ ฉบับเสริมการเรียนรู้ เล่ม 2 ได้อธิบายถึง ขนม 4 ชนิดนี้ไว้ว่า…
- ไข่กบ คือ สาคู หรือ เมล็ดแมงลัก
- นกปล่อย คือ ลอดช่อง
- มะลิลอย หรือ บัวลอย คือ ข้าวตอก
- อ้ายตื้อ คือ ข้าวเหนียว
โดยจะวางไว้ 4 ถ้วย และมีน้ำกะทิหวานๆ ใส่ชามอยู่ตรงกลาง ในอดีตจะเรียกน้ำกะทินี้ว่า ‘น้ำกระสาย’
น้ำเต้าหู้โบราณ
รสชาติสุดคลาสสิคของน้ำเต้าหู้ ทานคู่กับไอศกรีมงาดำ และเครื่องเคียงหลากหลายชนิด อย่าง แปะก๊วย วุ้น สาคู ลูกเดือย ถั่วแดง เม็ดบัว และโก๋กรอบ แล้วสร้างสรรค์ให้เมนูสุดคลาสสิกไม่เหมือนใคร ด้วยการเพิ่มแผ่นเต้าหู้ทอด
ถังทอง
ปลุกขนมโบราณอย่าง ‘ถังแตก’ ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่งในรูปแบบใหม่ ด้วยการทานคู่กับไอศกรีมกะทิรวมมิตร โรยด้วยมะพร้าวอ่อน เกล็ดน้ำตา และงาขาวงาดำคั่ว
ปลากริมไข่เต่า กะทิหอม
ปลากริมต้มน้ำตาลมะพร้าว ไข่เต่าต้มน้ำกะทิ ทานคู่กับไอศกรีมเผือกและเผือกทอด ให้รสชาติกลมกล่อมหวาน มัน เค็มอย่างลงตัว
ขนมปลากริมไข่เต่า หรือ ขนมแชงม้า เป็นขนมโบราณ มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 5 สำหรับ ‘ขนมปลากริม’ และ ‘ขนมไข่เต่า’ เป็นขนมคนละชนิดกัน
ขนมปลากริม มีลักษณะเป็น “ปลากริม” ที่เป็นปลาจริงๆ มีทั้งรสเค็มและหวาน นิยมทำเลี้ยงในงานศพในจังหวัดตราด โดยจะใช้เลี้ยงแขกในคืนสุดท้ายของงานศพผู้สูงอายุ
ส่วน ขนมไข่เต่า ในอดีตจะมีเพียงสีเดียวคือ สีขาว ที่ได้จากแป้งขนม
แต่ด้วยความที่คนนิยมนำขนมทั้งสองชนิดนี้มาทานรวมกัน จึงเรียกว่า ขนมปลากริมไข่เต่า
แตงโมปลาแห้ง สังขยาเคี่ยว
ถ้านึกถึง เมนูคลายร้อนของไทยในอดีต ก็คงจะหนีไม่พ้น แตงโมปลาแห้ง เพราะแตงโมเป็นผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก และมีแร่ธาตุที่จำเป็นอยู่มากมาย ส่วนปลาแห้งนั้นก็คือ ปลาที่คั่วจนเหลือง คลุกเคล้ากับน้ำตาลทรายและเกลือ โรยหอมแดงเจียวกรอบ เช่นเดียวกับปลาแห้งโรยหน้าข้าวเหนียวมูน
จากแตงโมปลาแห้งสูตรโบราณ ทิพย์รสได้สร้างสรรค์เมนูขึ้นใหม่ โดยนำ ข้าวเหนียวแตงโมปลาแห้งมาทานคู่กับไอศกรีมนมสด เพื่อเพิ่มความหวานมัน และเพิ่มความหอมด้วยสังขยาเคี่ยวสูตรเฉพาะของทางร้าน
รสแห่งสยาม
อาหารไทยที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง ‘ต้มยำ’ สู่เมนูไอศกรีมรสชาติแปลกใหม่น่าลิ้มลอง ความเผ็ดร้อนของพริกหอมทอดกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับเยลลี่ตะไคร้ใบเตยหอมที่จะช่วยเพิ่มความสดชื่น และเมื่อทานคู่กับไอศกรีมนมสดจะขับให้รสชาติของเมนูนี้ออกรสยิ่งขึ้น
บานาน่า ไทยสไตล์
เรื่องกล้วยๆ ที่ไม่ได้มีแค่กล้วย… นำทัพโดยไอศกรีมวนิลลาหอมหวาน ทานคู่กับ ‘กล้วยตาก’ หนุบหนับ ‘กล้วยฉาบ’ กรุบกรอบ และราดด้วย ‘น้ำกล้วยปิ้ง’ ทำให้เกิดความซับซ้อนของรสสัมผัสหลากหลายมิติ
เหินห่าวซือ
เหินห่าวซือ เมนูขนมไทยเชื้อสายจีน ที่มีความหมายว่า “อร่อยมาก”
เมนูนี้เป็นการผสมผสานไอศกรีมชาไทยสูตรต้นตำรับที่ส่งกลิ่นหอมละมุนจากใบชา กับซอสไข่เค็มสูตรเฉพาะ และขนมยิ้มเสน่ห์ ขนมไทยเชื้อสายจีนโบราณที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน
นี่คือ 10 เมนูที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ โดยที่ไม่ทิ้งอัตลักษณ์ดั้งเดิม
เพื่อการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย และก้าวต่อไปสู่อนาคตของ ทิพย์รส ร้านไอศกรีมไทยที่เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2513.
ร้านไอศกรีมทิพย์รส
ที่ตั้ง: ซอย กรุงเทพ-นนทบุรี ๒ (เตาปูน)
เปิด: ทุกวัน เวลา 08:00 – 20:00 น.
ติดต่อ: 02-585-0415, 02-585-0209 หรือ www.facebook.com/thipparoticecream
แผนที่:
อ้างอิง:
- Museumthailand. ขนมสี่ถ้วย กินสี่ถ้วย : ประเพณีแต่งงานแบบโบราณของชาวสุโขทัย. https://bit.ly/2JZbXWl
- อารยา ถิรมงคลจิต. ของหวานชื่อนี้ก็มีด้วย(๔ กันยายน ๒๕๕๖). https://bit.ly/2K4uP6f
- ศิลปวัฒนธรรม. ขนมชาววัง ที่คนในวังไม่เคยกิน. https://bit.ly/2QXvAyw
- สีวลี ตรีวิศวเวทย์. อาหารต้านร้อน ปลาแห้งแตงโม. https://bit.ly/2ItTOwz