“ถ้าพรุ่งนี้ผมยังลุกขึ้นมาวาดรูปได้ ผมก็จะวาด
“แต่ถ้าวาดไม่ไหวแล้ว ผมก็ยังมีความสุข ที่ได้รู้ว่าที่นี่จะยังอยู่ เพื่อให้ความสุขกับคนอื่น”
หวาง หย่ง-ฟู่ (黃永阜) หรือ คุณตาหวาง ในวัย 96 ปี กล่าวอย่างยิ้มแย้ม และยังแข็งแรงพอที่จะออกมาทักทายต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนหมู่บ้านเล็กๆ ของเขา ที่รู้จักกันทั่วโลกในนาม Rainbow Village
หมู่บ้านสีสันสดใสที่ถูกแต่งแต้มด้วยภาพวาดน่ารักๆ แห่งนี้ อยู่ในเมืองไทจง ประเทศไต้หวัน
ผลงานทั้งหมด มาจากปลายพู่กันของคุณตาหวาง อดีตทหารปลดประจำการ ผู้ไม่เคยเรียนศิลปะ
ผลงานศิลปะของคุณตาน่าทึ่งพอๆ กับที่มาของ Rainbow Village
เดิมทีหมู่บ้านนี้เป็นที่พักของเหล่าทหารปลดประจำการพรรคก๊กมินตั๋ง เมื่อก่อนเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ มีครอบครัวทหารอาศัยอยู่กว่า 1,200 ครัวเรือน
เวลาผ่านไปหลายสิบปี หมู่บ้านทรุดโทรมลง ผู้อาศัยก็น้อยลงเรื่อยๆ รัฐบาลไต้หวันเริ่มเห็นว่ารักษาหมู่บ้านไว้ก็ไม่คุ้ม ที่ดินตรงนี้ควรพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่คุ้มค่ากว่านี้ได้
ปี 2010 จึงออกหมายถึงผู้อยู่อาศัยที่เหลือเพียง 11 หลัง ว่าจะรื้อถอน โดยให้เงินชดเชยอย่างเหมาะสม ให้ทุกคนไปหาที่อยู่ใหม่
ผู้คนเริ่มทยอยย้ายออก ยกเว้นคุณตาหวาง
“ผมไม่อยากย้าย ที่นี่คือบ้าน เป็นที่แห่งเดียวในไต้หวันที่ผมรู้สึกว่าคือบ้านจริงๆ”
คุณตาหวางจึงตั้งใจว่าจะอยู่จนวันสุดท้ายที่ทางการมารื้อบ้าน
ด้วยความเบื่อและเหงา คุณตาจึงฟื้นวิชาวาดเขียน ที่พ่อเคยสอนตอน 5 ขวบ มาวาดรูปแต่งบ้านตามที่ตัวเองชอบ
“พ่อเคยสอนวาดรูปตั้งแต่ผม 5 ขวบ แต่ผมไม่เคยวาดรูปไหนเสร็จเลย รูปนกในบ้านคือรูปแรกที่ผมวาด”
จากเดิมที่คิดจะวาดแค่เพื่อตกแต่งบ้านตัวเอง ความสุขบางอย่างจากการหวนมาจับพู่กันในรอบ 70 ปี ก็พาคุณตาหวางเผื่อแผ่ผลงานออกไปนอกกำแพงและบ้านอันว่างเปล่าของเพื่อนบ้าน
งานศิลปะของคุณตาไม่มีคอนเซ็ปต์ ไร้กระบวนท่า ทุกอย่างออกมาจากความทรงจำและจินตนาการ
ขบวนพาเหรดหมา แมว เด็กหญิงชาย เครื่องบิน ไปจนถึงดาราที่ชอบ กระจายตัวอยู่ทั่วหมู่บ้านร้าง
และนี่คงจะเป็นแค่รูปวาดแก้เบื่อของคนแก่ ถ้านักศึกษากลุ่มหนึ่งไม่มาพบเข้า
ผลงานที่สะดุดตา บวกกับเรื่องเล่าของคุณตาที่กระทบใจ นักศึกษาเริ่มกระจายภาพของหมู่บ้านและเรื่องราวของคุณตาหวาง เกิดการระดมทุนเพื่อซื้อสีให้คุณตาได้วาดรูป และเรียกร้องให้รัฐบาลเก็บหมู่บ้านที่สวยงามนี้ไว้
แล้วหมู่บ้านแห่งนี้ก็กลายเป็นที่สนใจในระดับชาติทันที
ผ่านไปไม่นาน นายกเทศมนตรีเมืองไทจง ได้รับอีเมลกว่า 80,000 ฉบับจากคนไต้หวัน เรียกร้องให้อนุรักษ์หมู่บ้านแห่งนี้
แล้วมันก็ได้ผล รัฐบาลไต้หวันตัดสินใจยุติการรื้อถอน
ปัจจุบัน Rainbow Village กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวหลักของไต้หวัน ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ปีละกว่า 1.25 ล้านคน
ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางมาเยี่ยมชม Rainbow Village พูดคุย และถ่ายรูปกับคุณตาหวาง จนเขาได้รับฉายาว่า Rainbow Grandpa หรือคุณตาสายรุ้ง
สำหรับคนที่ได้ฟังเรื่องราวและเห็นสิ่งที่คุณตาทำ ต่างมองว่านี่มันเป็นเรื่องมหัจรรย์
แต่สำหรับคุณตาหวาง สิ่งที่เขาทำ ก็แค่จะบอกให้คนอื่นรู้ว่าเขารักบ้านหลังนี้เท่านั้นเอง
“รัฐบาลสัญญากับผมว่า พวกเค้าจะรักษาหมู่บ้านไว้ แค่นี้ผมมีความสุขแล้ว และรู้สึกขอบคุณมากๆ”
ทุกวัน คุณตาหวางจะออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยตัวเอง พร้อมกับผลงานล่าสุด ที่เพิ่งวาดเมื่อเช้าติดมือออกมาด้วยเสมอ
ในวัย 96 คุณตาหวางไม่แข็งแรงเหมือนก่อน หลายอย่างที่เคยทำได้ ตอนนี้ก็เริ่มทำไม่ไหว แต่มีหนึ่งอย่างที่คุณตาบอกว่ายังไงก็ไหว นั่นคือ การวาดรูป
“การวาดรูปมันทำให้ผมสุขภาพดีนะ ดูสิ เติมสีลงไปนิดๆ หน่อยๆ จากของเก่า ก็กลายเป็นของสวยงามได้เลยนะ ยิ่งพอเห็นคนมากมายเดินทางมาที่หมู่บ้าน เพื่อมาดูรูปที่ผมวาด นี่คือความสุขอย่างที่สุดของผมแล้ว”
ทุกคนที่มาชมภาพวาดของคุณตาหวาง ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่มันคืองานที่น่าทึ่งและทรงพลัง ไม่แพ้เรื่องราวของคุณตาเลย ทั้งลายเส้น การใช้สี และการเล่าเรื่องมีสไตล์เฉพาะตัว ที่ไม่เหมือนกับศิลปินสตรีทอาร์ตคนไหน
บางคนก็อดไม่ได้ที่จะนำไปเปรียบเทียบกับผลงานของ Joan Miró ศิลปินชาวสเปน หรือ Hayao Miyazaki ผู้กำกับภาพยนตร์เอนิเมชั่นชื่อดังชาวญี่ปุ่น แต่งานของคุณตาเกิดจากความคิดที่เรียบง่ายกว่าศิลปินคนอื่นมาก เพราะแค่วาดสิ่งที่รู้สึกและความทรงจำในวัยเยาว์ของตัวเองเท่านั้น
ตลอดสิบปีที่ผ่านมา คุณตาหวางจะใช้เงินในกล่องบริจาคที่วางไว้หน้าหมู่บ้าน เพื่อซื้อสีและอุปกรณ์วาดภาพ เมื่อนักท่องเที่ยวมากขึ้น เงินบริจาคก็มากเกินจำนวนสีที่ต้องซื้อ คุณตาหวางจะบริจาคให้กับองค์กรการกุศลในท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุคนอื่นๆ
ไม่แปลกใจเลย ที่เรื่องราวของคุณตาหวางจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก
นี่คือการกอบกู้สิ่งที่ตัวเอง ‘รัก’ ด้วย ‘ความรัก’
ไม่มีความรุนแรง ไม่ประท้วง ไม่เรียกร้อง ไม่ขอความช่วยเหลือ แต่เลือกจะแต่งแต้มสีสันให้บ้านที่กำลังจะถูกรื้อด้วยใจรักเพื่อเป็นสิ่งสุดท้ายอย่างลำพัง แต่พลังแห่งความรักนั้นกลับส่งต่อไปไกลถึงใครหลายๆ คน
“ผมชอบที่ได้พูดคุยกับคนอื่น ทุกคนจะบอกว่าภาพวาดของผมสวย มันมีความหมายกับผมมาก ที่สำคัญทุกคนทำให้ผมไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป”
อ้างอิง:
- BBC.The 96-Year-Old Who Painted a Villedge. https://bbc.in/2GfR1s3
- Laura Mannering. FEATURE: ‘Rainbow Grandpa’ saves his Taichung village with his art. http://bit.ly/2t8x0v4
- Rugile. 96-Year-Old Taiwanese Man Saves His Village From Demolition By Turning It Into A “Rainbow Village”. http://bit.ly/2URiuDR