วันคริสต์มาส สำคัญอย่างไร?
ถ้าถามชาวคริสต์ คงได้คำตอบทันที อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ถ้าถามคนทั่วไป อาจจะนึกนานหน่อย และส่วนใหญ่ก็รู้จักแค่ซานตาคลอส กวางเรนเดียร์ ต้นคริสต์มาส และการเฉลิมฉลอง
แท้จริงแล้ว วันคริสต์มาส คือวันสำคัญทางศาสนา และเป็นวันหยุดราชการในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู หากเปรียบกับศาสนาพุทธ ก็คงเหมือนกับวันวิสาขบูชา
ทำไมต้องเป็นวันที่ 25 ธันวาคม?
เชื่อว่าตั้งต้นมาจากวันที่ 25 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่ชาวคริสต์สมัยแรกเฉลิมฉลอง ‘วันแม่พระรับสาร’ หรือวันที่พระแม่มารีย์รับสารจากทูตสวรรค์กาเบรียลว่านางจะตั้งครรภ์พระบุตรพระเป็นเจ้า ต่อมาเมื่อชาวคริสต์ต้องการเฉลิมฉลองวันที่พระเยซูประสูติ จึงได้นับออกไปอีก 9 เดือนหลังจากนั้น จนกลายมาเป็นวันที่ 25 ธันวาคมนั่นเอง
แม้จะมีข้อถกเถียงมากมายเกี่ยวกับที่มาของวันที่ 25 ธันวาคม แต่ปัจจุบันไม่ถือว่าเป็นสาระสำคัญแล้ว เพราะหัวใจของคริสต์มาสคือการเฉลิมฉลองวันที่พระเจ้าทรงลงมาเกิดเพื่อไถ่บาปแก่มนุษยชาติ
ปัจจุบันคริสต์มาสเป็นเทศกาลที่หลายประเทศทั่วโลกทั้งที่เป็นชาวคริสต์และไม่ใช่ ยึดเป็นวาระแห่งการเฉลิมฉลอง
เราจะเห็นบรรยากาศของการประดับประดาไฟ เสียงเพลง การแต่งตัวด้วยชุดซานตาคลอส การแจกและแลกของขวัญ รวมถึงกิจกรรมสุดบรรเจิด ที่ล้วนเกิดขึ้นภายใต้ธีม “คริสต์มาส”
รัสเซีย
เริ่มจากภาพการเฉลิมฉลองของประเทศรัสเซีย ที่มีการประดับประดาสถานที่อย่างสวยงามและยิ่งใหญ่บริเวณจตุรัสแดงใจกลางกรุงมอสโคว ในงานมีทั้งละครสัตว์ สวนสนุก แถมยังมีการแสดงจากแชมป์นักสเก็ตน้ำแข็ง ที่มาโชว์บัลเล่ต์เรื่องดัง “Nutcracker” อีกด้วย อลังการสมกับเป็นรัสเซียจริงๆ
ฝรั่งเศส
ถัดมาที่เมืองนีส ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ที่นี่ยังคงรักษาประเพณีเก่าแก่ “การอาบน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน” ช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยปีนี้นายกเทศมนตรี Christian Estrosi เข้าร่วมด้วยเช่นเคย ในบรรยากาศสบายๆ ท่ามกลางอุณหภูมิ 16 องศาเซลเซียส
จีน
เมื่อพูดถึงการว่ายน้ำช่วงคริสมาสต์ ประเทศในเอเชียของเราก็มีเช่นกัน นั่นคือเมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน ที่ประชาชนทั้งชายหญิง ทุกเพศทุกวัย พร้อมใจกันสวมหมวกซานตาคลอสมาวิ่งและว่ายน้ำท่ามกลางอุณหภูมิ -21 องศาเซลเซียส เพื่อเป็นการโปรโมทข้อดีของการว่ายน้ำในอุณหภูมิเย็นจัด แต่กรณีนี้ นอกจากหมวกซานต้า ก็ดูไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเทศกาลคริสต์มาส
ญี่ปุ่น
ที่ญี่ปุ่นก็ไม่น้อยหน้า มีการจัดพาเรดชุดซานตาคลอสออกมาสร้างสีสันร่วมกับการจัดแสดงไฟอย่างสวยงาม ที่ย่านมารุโนอูจิ กรุงโตเกียว
เกาหลีใต้
ส่วนประเทศใกล้เคียงอย่างเกาหลีใต้ นอกจากการเฉลิมฉลองของชาวคริสต์เกาหลีแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญที่จะสร้างสีสันให้กับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจุดแลนด์มาร์กสำคัญอย่างคลองชองกเยชอน ของกรุงโซล ที่มีการประดับไฟคริสต์มาสอย่างสวยงามเป็นประจำทุกปี (ดูคู่รักที่กำลังจุ๊บกันทางขวาในภาพสิ เห็นแล้วนึกถึงซีนโรแมนติกในซีรีส์เกาหลีเลย)
สเปน
แต่ที่แปลกไม่เหมือนใคร ต้องยกให้สเปน เพราะเค้ามีการออกสลากกินแบ่ง “El Gordo” ในช่วงคริสต์มาส ซึ่งถือเป็นลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ที่สุดในโลก กว่า 24,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 890,000 ล้านบาท ไม่บอกก็คงพอจะเดาได้ว่าบรรยากาศการจับรางวัลคริสต์มาสลอตเตอรี่ของสเปนจะคึกคักขนาดไหน
ลิทัวเนีย
แต่ถ้าแปลกในเชิงไอเดีย ต้องยกให้ประเทศลิทัวเนีย ที่ได้ศิลปินภายในประเทศมาสร้างสรรค์ Independent Christmas Town บริเวณสถานีรถไฟใจกลางเมือง นอกจากการจัดสถานที่ให้ชาวเมืองได้เฉลิมฉลอง จุดเด่นของ Independent Christmas Town แห่งนี้คือการใช้ถุงพลาสติกยักษ์ทำเป็นต้นสน แล้วใช้หน้ากากช่วยหายใจเป็นของตกแต่ง เพื่อเตือนใจผู้คนเรื่องการใช้พลาสติกในช่วงเทศกาลวันหยุด
เอกวาดอร์
ส่วนไอเดียที่น่ารักมากๆ ต้องยกให้ “Christmas bus” ของเอกวาดอร์ โดยกิจกรรมนี้จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2005 หน่วยงานขนส่งสาธารณะของเอกวาดอร์จะมี “Christmas bus” ออกมาให้บริการในช่วงคริสต์มาส โดยไม่มีการเก็บค่าโดยสาร แถมยังแจกลูกกวาดเป็นของขวัญให้ผู้โดยสารอีกต่างหาก
มาซิโดเนีย
อีกประเทศที่มีสีสันไม่แพ้ใครคือ มาซิโดเนีย ในยุโรปตะวันออก ที่มีกิจกรรมซานตาคลอสแดนซ์ ผู้คนนับร้อยพร้อมใจกันแต่งชุดซานตาคลอสออกมาซ้อมเต้นบนถนนกลางเมืองหลวง Skopje ในช่วงคริสต์มาส เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนจะถึงงานแข่งขันประจำปีช่วงปีใหม่
อิรัก
แต่ขณะที่หลายประเทศเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนาน ชาวคริสต์ในประเทศอิสลามที่เต็มไปด้วยสงครามอย่างอิรัก ก็มีพื้นที่เล็กๆ ของตัวเองให้ได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่โบสถ์เซนต์จอห์นในจังหวัดNiniveh ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโมซูล เมืองหลวงของอิรัก ราว 30 กิโลเมตร
ฟิลิปปินส์
มาที่ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างฟิลิปปินส์กันบ้าง ภาพที่เห็นอาจจะแปลกตาอยู่สักหน่อย ถ้าจะบอกว่านี่คือคริสต์มาส แต่ลูกหมูย่างหรือ “lechon” (คล้ายๆ หมูหันของบ้านเรา) เป็นอาหารยอดนิยมของคนฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะในวันก่อนคริสต์มาสจะขายดีเป็นพิเศษ ชนิดที่ต้องย่างกันทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว เรียกได้ว่า 1 ปีจะมีครั้งเดียวเท่านั้น ที่จะได้เห็นหมูย่างเสียบไม้เรียงรายเต็มกรุงมะนิลาแบบนี้
ประเทศไทย
ปิดท้ายที่ประเทศไทย เราไม่เคยพลาดทุกเทศกาล คริสต์มาสก็เช่นกัน ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจับช้างมาแต่งตัวเป็นซานตาคลอสบุกแจกของเล่นให้เด็กๆ ตามโรงเรียนในจังหวัด พร้อมกับหนุมานคู่ใจ ถึงส่วนผสมจะงงๆ หน่อย แต่เชื่อว่าสร้างรอยยิ้มและความสุขให้เด็กๆ ได้อย่างแน่นอน