หนาวนี้ที่มหานครนิวยอร์ก ช่างแตกต่างจากปีก่อนๆ เพราะทั้งเมืองไม่ได้ขาวโพลนด้วยหิมะอย่างที่ควรจะเป็น
บรรดา ‘นิวยอร์กเกอร์’ หรือผู้คนที่อาศัยและใช้ชีวิตอยู่บนเกาะแมนฮัตตัน โดยเฉพาะบริเวณรอบๆ เซ็นทรัลพาร์ก (Central Park) ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางมหานครนิวยอร์ก ต่างก็สงสัยเหมือนกันว่า หิมะหายไปไหน ทำไมยังไม่ตกสักที?
เพราะหิมะแรกของฤดูหนาวปลายปี 2021 ได้ตกลงมาในวันที่ 23 ธันวาคม ก่อนคืนคริสต์มาสอีฟเพียงหนึ่งวัน ส่วนปลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้อากาศจะเย็นจัดจนอุณหภูมิติดลบ ส่งผลให้พื้นที่อื่นๆ ในสหรัฐอเมริกามีหิมะตกตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่บนเกาะแมนฮัตตันแห่งนี้ กลับไม่มีวี่แววว่าหิมะแรกจะตกลงมาในเร็ววัน
ข้อมูลจากสำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Weather Service) ระบุว่า เหตุการณ์ทำนองนี้เคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งในปี 1973 เพราะกว่าหิมะแรกจะตก ก็ล่วงเลยเข้าสู่วันที่ 29 มกราคม
หากดูข้อมูลหิมะแรก ที่สำนักงานเริ่มเก็บบันทึกไว้ตั้งแต่ปี 1869 จนถึงปัจจุบัน รวม 153 ปีติดต่อกัน ครั้งที่หิมะแรกตกเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ เกิดขึ้นวันที่ 15 ตุลาคม 1876 ส่วนค่าเฉลี่ยของวันที่หิมะแรกตก คือ วันที่ 7 ธันวาคม
แต่แล้วการรอคอยเนิ่นนานก็ได้สิ้นสุดลง เมื่อหิมะแรกของฤดูหนาวครั้งนี้ ซึ่งควรจะตกตั้งแต่ปลายปี 2022 กลับเพิ่งมาตกช่วงเช้ามืดของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2023 สร้างสถิติใหม่เป็นวันที่หิมะแรกตกล่าช้าที่สุดในรอบ 50 ปี
จริงๆ แล้ว เครื่องมือตรวจจับหิมะของสำนักงาน ซึ่งติดตั้งไว้ในเซ็นทรัลพาร์ก ได้ส่งสัญญาณเตือนว่า เริ่มมีหิมะตกลงมาตั้งแต่กลางเดือนมกราคมบ้างแล้ว แต่ยังเบาบางมาก วัดความหนาได้เพียง 0.1 นิ้ว ถือเป็นปริมาณที่น้อยเกินกว่าจะเรียกว่า ‘หิมะแรก’ ได้ ประกอบกับบริเวณแหล่งน้ำธรรมชาติก็ยังไม่เริ่มเกาะตัวเป็นน้ำแข็ง จึงไม่นับว่าเป็นช่วงเวลาที่หิมะแรกตก
เนลสัน วาซ (Nelson Vaz) นักอุตุนิยมวิทยาประจำกสำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา และ แอนดรูว์ เจ. ครูซกีวิคซ์ (Andrew J. Kruczkiewicz) นักวิจัยด้านบรรยากาศและอุตุนิยมวิทยา ประจำมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เห็นตรงกันว่า หิมะแรกในมหานครนิวยอร์ก ควรจะเริ่มตกเดือนธันวาคม แล้วตกหนักที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนจะหยุดตกในเดือนมีนาคม
แต่ปรากฏการณ์ลานีญา (La Niña) ทำให้สภาพอากาศแปรปรวน ความหนาวเย็นที่ควรปกคลุมทั่วนิวยอร์ก กลับกระจุกตัวอยู่แค่ทางตอนเหนือและตะวันตกเท่านั้น เหตุนี้เองจึงเกิดพายุหิมะรุนแรงในเมืองบัฟฟาโล ต่างจากมหานครนิวยอร์กที่มีฝนตกแทนจนทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายวันกว่าอุณหภูมิจะลดต่ำลง
แม้ว่าหิมะแรกของฤดูหนาวนี้มาเยือนชาวนิวยอร์กช้ากว่ากำหนด แต่ก็ยังดีกว่าไม่ตกลงมาเลย เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่า ไม่ใช่ความน่าผิดหวังที่ผู้คนไม่ได้เห็นหิมะ แต่คือความผิดปกติของสภาพอากาศ ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อนที่เราทุกคนต้องเผชิญหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อ้างอิง
- AFP. “Where’s the snow?” New Yorkers wonder. https://bit.ly/3YkWTEl
- Christine Kiernan. Snow go: New York City’s winter is missing the white stuff. https://reut.rs/3l2xrFo
- National Weather Service New York NY. Latest First Measurable Snowfall 2023. https://twitter.com/NWSNewYorkNY/status/1620735969195618304/video/1
- National Weather Service. Snow Measurement Guidelines. https://www.weather.gov/gsp/snow
- Peter Hutchinson. ‘Drought’ has New Yorkers asking: ‘Where’s the snow?’. https://bit.ly/3HxAIE6