w©rld

ในแต่ละปี นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้มีการค้นพบสัตว์และพืชสายพันธุ์ใหม่ รวมถึงสายพันธุ์หายากอยู่เรื่อยๆ ว่าแต่การค้นพบเหล่านี้บอกอะไรกับเราบ้าง และทำไมเราถึงต้องใส่ใจการค้นพบกบ แมงมุม ผีเสื้อ กล้วยไม้ ไปจนถึงวาฬสายพันธุ์ใหม่ 

คงต้องยกเอาหลายๆ ประโยคที่ Conservation International องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงหาผลกำไรเคยกล่าวเอาไว้ในปี 2563 เมื่อครั้งที่ได้ประกาศการค้นพบสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ 20 ชนิดในเขตเทือกเขาแอนดีสของประเทศโบลิเวีย ไว้ว่า 

การสำรวจและค้นพบในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งกรณีสำคัญที่ส่งเสริมและสนับสนุนการปกป้องอนุรักษ์พื้นที่ป่า รวมถึงเป็นการเผยแพร่ข้อมูลที่จะมีส่วนช่วยวางแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในภูมิภาคที่พื้นที่ป่าไม้ไม่ได้เป็นเพียงถิ่นที่อยู่อาศัยสำหรับสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจของคนพื้นเมืองที่ต้องดำรงชีวิตด้วยการพึ่งพาอาศัยป่าด้วยเช่นกัน 

ไม่เฉพาะคนพื้นเมืองเท่านั้น แต่คนที่อาศัยในเมืองหลวงเองก็เช่นกันที่แม้จะอยู่ห่างไกลผืนป่า ทว่า ‘เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว’ การสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตแม้เพียงสปีชีส์เดียวย่อมส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ราวกับคลื่นใต้น้ำที่รอวันระเบิดโดยที่มนุษย์อาจไม่รู้ตัว 

becommon เลยอยากชวนมาทำความรู้จักสัตว์สายพันธุ์ใหม่และสายพันธุ์หายากผ่านบรรดาสิ่งมีชีวิตที่ได้รับเกียรติให้ใช้ชื่อเรียกขานตามบุคคลสำคัญของหลายๆ ประเทศ 

เพราะเมื่อได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันแล้ว อาจจะสนิทกันมากขึ้น และทำร้ายกันน้อยลง 

 

 1.

กบเกรต้า ธันเบิร์ก 

Pristimantis gretathunbergae 

Rare Species
Photo: https://www.rainforesttrust.org/our-impact/rainforest-news/new-species-of-rainfrog-discovered-in-panama-and-named-in-honor-of-global-environmental-activist-greta-thunberg/

ลึกเข้าไปในเทือกเขา Chucanti ซึ่งเป็นป่าฝนเขตร้อนในประเทศปานามา ที่มีระดับความสูงกว่า 1,000 เมตร จึงมีสภาพภูมิประเทศที่แยกตัวอออกจากพื้นที่อื่น กลายเป็นดินแดนเฉพาะกิจที่เหมาะจะเป็นบ้านของสัตว์เฉพาะถิ่นที่ไม่ปรากฏโฉม  ที่อื่นใดบนโลกใบนี้ เหมือนอย่างกบขนาดจิ๋วสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งได้รับการค้นพบเมื่อเร็วๆ นี้ 

การเดินทางจนค้นพบกบจิ๋วสายพันธุ์ใหม่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2012 โดยทีมนักชีววิทยานานาชาติ นำโดย ดร.เอเบล บาติสตา (Dr Abel Batista) และ ดรคอนราด เมเบิร์ต (Dr. Conrad Mebert) ที่ชวนกันควบม้าไต่ขึ้นไปบนป่าฝนสูงชันเพื่อค้นหาสัตว์สายพันธุ์ใหม่ จนพบเข้ากับกบไม่ทราบสปีชีส์ซ่อนตัวอยู่บนใบของต้นสับปะรดสียามค่ำคืน 

เจ้ากบจิ๋วแห่งปานามามีขนาดเพียง 3-4 เซนติเมตร แต่หัวโต แตกต่างจากกบเขตร้อนสายพันธุ์อื่นๆ ในอเมริกากลาง แถมดวงตาก็ยังกลมโตสีดำขลับ โดดเด่นด้วยขอบปากบนที่ราวกับถูกขีดเขียนด้วยเส้นสีเหลืองตลอดแนว ทั้งยังมีหงอนแหลมเล็กๆ รูปกรวยโผล่อยู่เหนือเปลือกตาด้านบน 

พฤติกรรมของกบตาโตสายพันธุ์นี้มักใช้เวลาส่วนใหญ่เกาะอยู่บนใบของต้นสับปะรดสี แล้วทำทุกกิจกรรมตั้งแต่หลับ ผสมพันธุ์ ไปจนถึงการวางไข่   

ผ่านเวลามาจนถึงปี 2018 หลังจากทีมนักวิทยาศาสตร์สามารถนำดีเอ็นเอของกบสปีชีส์ดังกล่าวมายืนยันได้ว่านี่คือ กบสายพันธุ์ใหม่ของโลก ผู้สนับสนุนการวิจัยอย่างองค์กร Rainforest Trust ก็ได้จัดงานประมูลขึ้น โดยผู้ที่ชนะการประมูลจะได้รับสิทธิ์ในการตั้งชื่อกบสายพันธุ์ใหม่นี้ 

Rare Species
เกรตา ธันเบิร์ก ขณะเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการยุโรป ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2020
Photo: Kenzo TRIBOUILLARD/ AFP

ในที่สุด กบจิ๋วสายพันธุ์ใหม่ของโลกก็มีชื่อว่า Pristimantis gretathunbergae โดยผู้ชนะการประมูลเลือกชื่อนี้ตามชื่อของนักรณรงค์เพื่อสภาพภูมิอากาศโลกอย่าง เกรตา ธันเบิร์ก (Greta Thunberg) เพื่อเป็นเกียรติให้กับทุกความพยายามของเธอในการต่อสู้เพื่อสภาพภูมิอากาศ 

“Rainforest Trust ขอตั้งชื่อกบปานามาสายพันธุ์ใหม่ตามชื่อของเกรตา ธันเบิร์ก เพราะเธอเป็นผู้ย้ำเตือนพวกเราถึงอนาคตของทุกสปีชีส์บนโลกใบนี้ว่าขึ้นอยู่กับการกระทำของมนุษย์ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะเปลี่ยนแปลงสภาวะวิกฤติของภูมิอากาศโลกได้” ดรเจมส์ ดัทช์ (Dr. James Deutsch) CEO แห่งองค์กร Rainforest Trust กล่าว 

แม้จะได้รับการตั้งชื่อในฐานะสัตว์สายพันธุ์ใหม่ แต่กบเกรตาก็ได้รับการขึ้นบัญชีสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ตามเกณฑ์ของ IUCN Red List เป็นที่เรียบร้อย ด้วยสภาวะของภูมิภาค Cerro Chucantí ในปานามาที่ปัจจุบันมีอัตราการตัดไม้ทำลายป่าและทำฟาร์มปศุสัตว์สูง ทำให้พื้นที่ป่าหายไปมากกว่า 30% ภายในระยะเวลาเพียงทศวรรษเดียว 

 

2.

ผีเสื้อเดวิด แอทเทนเบอเรอห์ 

Euptychia attenboroughi  

Rare Species
Photo:https://www.mentalfloss.com/article/71937/rare-butterfly-species-named-david-attenborough

ผีเสื้อหายากในป่าเขตร้อนของโคลอมเบียและบราซิล มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Euptychia attenboroughi โดยตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่ เซอร์เดวิด แอทเทนเบอเรอห์ (Sir David Attenborough) นักธรรมชาติวิทยาชื่อดังผู้หลงใหลในผีเสื้อเป็นพิเศษ และผีเสื้อชนิดนี้ก็ไม่ใช่สัตว์เพียงชนิดเดียวที่ได้รับการตั้งชื่อตามเซอร์เดวิด ยังมีสัตว์โลกอีกมากมายที่ใช้ชื่อแอทเทนเบอเรอห์ 

Rare Species
เซอร์เดวิดขณะปลูกต้นสน Wollemei ที่สวนพฤกษศาสตร์ Kew Gardens ในกรุงลอนดอน เมื่อปี 2005
Photo: Carl De Souza/ AFP

 

3.

จักจั่นเขาเลดี้กาก้า 

Kaikaia Gaga 

Rare Species
Photo: https://indianf.com/a-fashionable-insect-that-gets-lady-gagas-name/

จักจั่นเขาเจ้าของสีแดงฉูดฉาดแสนจะเป็นเอกลักษณ์ทั้งตัว ดูๆ ไปก็ไม่ต่างอะไรกับบุคลิกที่เด่นเกินเด่นของนักร้องสาวอย่าง เลดี้กาก้า ที่ไม่ว่าจะปรากฏกายในชุดไหนก็สะกดทุกสายตาให้หันมอง ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกับที่จักจั่นเขาสายพันธุ์นี้ได้รับการตั้งชื่อว่า Kaikaia Gaga โดย เบรนแดน มอร์ริส (Brendan Morris) นักศึกษาในมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา ระบุว่า “ถ้าจะมีแมลงตัวไหนได้ชื่อว่า Lady Gaga แมลงตัวนั้นก็คือ จักจั่นเขา เพราะมันมีเขาสุดแปลกในสไตล์เดียวกับแฟชั่นหลุดโลกของเลดี้กาก้า 

จักจั่นกาก้าชอบดูดน้ำหวานจากพืชและส่งเสียงร้องสื่อสารกันเองด้วยการสั่นลำต้นของพืชให้เกิดเสียง แม้จะไม่ถึงขั้นเป็นเพลงก็ตาม 

Rare Species
เลดี้กาก้าในงานประกาศรางวัล Bambi ประเทศเยอรมนี ปี 2011
Photo: Daniel Roland/ AFP

 

4.

ด้วงเวเดอร์ 

Agathidium vaderi

Rare Species
Photo: https://www.earthtouchnews.com/discoveries/discoveries/in-honour-of-may-the-fourth-here-are-7-cool-animals-named-after-star-wars/

ด้วยความที่มีส่วนหัวเหมือนสวมหมวกกันน็อกที่ดันไปคล้ายกับตัวละครอมตะอย่าง ซิธ ลอร์ด หรือดาร์ทเวเดอร์ ในภาพยนตร์ชุด Star Wars นักวิทยาศาสตร์ 2 ราย ได้แก่ เคลลี มิลเลอร์ (Kelly B Miller) และเควนติน วีลเลอร์ (Quentin D Wheeler) จึงตั้งชื่อให้ด้วงสายพันธุ์นี้ว่า Agathidium vaderi ตามลักษณะเด่นที่เห็นภาพชัดเจนทันทีที่เอ่ยนาม 

 

5.

แมลงวันบียอนเซ่ 

Scaptia beyonceae  

Rare Species
Photo: https://fashionart.patriciareports.nl/2012/01/meet-scaptia-plinthina-beyonceae-named.html

ไม่น่าเชื่อว่า แค่การมีขนสีเหลืองเด่นสะดุดตาตรงบั้นท้ายจะทำให้แมลงวันสปีชีส์นี้ (ที่จริงๆ แล้วคือ ตัวเหลือบได้รับการตั้งชื่อว่า Scaptia beyonceae โดยนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อ ไบรอัน เลสสาร์ด (Bryan Lessard) ให้เหตุผลว่า “ขนอุยสีเหลืองทองตรงช่วงก้นของเจ้าแมลงวัน ทำให้ผมนึกถึงชุดสีเหลืองที่บียอนเซ่เคยใส่ เลยตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ควีนบี 

Scaptia beyonceae ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในปี 1981 ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย แต่ยังไม่ได้รับคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการ จนเวลาผ่านไปนาน 30 ปี เจ้าเหลือบท้องเหลืองจึงจะได้รับการตั้งชื่อตามบียอนเซเมื่อปี 2011 นี้เอง โดยหนึ่งในเหตุผลสมทบก็คือ เพราะปี 1981 ที่ค้นพบเหลือบบั้นท้ายดินระเบิดตัวนี้เป็นปีเกิดของควีนบีนั่นเอง 

 

6.

จิ้งหรีดจาซินดา 

Hemiandrus jacinda 

Rare Species
Photo: https://www.newshub.co.nz/home/new-zealand/2021/03/hemiandrus-jacinda-new-w-t-species-named-after-prime-minister-jacinda-ardern.html

เหตุผลที่จิ้งหรีดยักษ์สีแดงสายพันธุ์นี้ได้รับการตั้งชื่อว่า Hemiandrus jacinda ตามชื่อของจาซินดา อาร์เดิร์น (Jacinda Ardern) ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของประเทศนิวซีแลนด์ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำอันดับหนึ่งที่โลกรัก ก็เพราะสีแดงของตัวมันนั่นเองที่ไปพ้องกับสีประจำพรรคเลเบอร์ที่จาซินดาสังกัดอยู่ และจิ้งหรีดสายพันธุ์นี้ถือเป็นแมลงลำดับที่ ที่ใช้ชื่อของน่ายกรัฐมนตรีหญิงคนนี้เป็นชื่อวิทยาศาสตร์

Rare Species
นายกรัฐมนตรีจาซินดากำลังกล่าวสุนทรพจน์แก่สมาชิกพรรคเลเบอร์ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2020 ที่เมืองโอ๊กแลนด์ นิวซีแลนด์
Photo: https://www.timesofisrael.com/new-zealands-ardern-appears-headed-for-landslide-win-and-2nd-term/

 

7.

ผีเสื้อกลางคืนโดนัลด์ ทรัมป์ 

Neopalpa donaldtrumpi 

Rare Species
Photo: https://time.com/4637403/tiny-moth-donald-trump/

ผีเสื้อกลางคืนตัวนี้คงไม่มีทางรู้ตัวว่าส่วนหัวของมันนั้นเหมือนกับทรงผมของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ราวกับแกะ ถึงขนาดที่นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบอย่าง ดร.วาซริค นาซารี (Dr. Vazrick Nazari) ต้องตั้งชื่อให้ว่า Neopalpa donaldtrumpi เขาเจอมันขณะกำลังพิจารณาคอลเล็กชั่นผีเสื้อกลางคืนในพิพิธภัณฑ์กีฏวิทยา มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา 

Rare Species
โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อครั้งยังทำงานที่ทำเนียบขาว
Photo: Mandel Ngan/ Photo

8.

กบเจ้าฟ้าชายชาร์ลส 

Hyloscirtus princecharlesi 

Rare Species
Photo: http://novataxa.blogspot.com/2012/08/2012-hyloscirtus-princecharlesi.html

เมื่อเจ้าชายกบไม่ได้มีอยู่ในนิทาน แต่มีตัวตนจริงๆ อย่างกบต้นไม้ (หรืออาจเทียบได้กับเขียดตะปาดในบ้านเราใกล้สูญพันธุ์สปีชีส์นี้ ที่ได้รับการตั้งชื่อว่า Hyloscirtus princecharlesi ตามพระนาม “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส” ในฐานะทรงเป็นองค์อุปถัมภ์งานกุศลด้านการพิทักษ์ป่าฝนอันเป็นบ้านของกบเหล่านี้ 

Rare Species
เจ้าฟ้าชายชาร์ลสขณะทรงเยี่ยมเยือนตลาดแคมบริดจ์ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน
Photo: Henry Nicholls/AFP

กบต้นไม้ปรินซ์ชาร์ลส ถูกค้นพบครั้งแรกโดย ดร.หลุยส์ เอ โคโลมา (Dr. Luis A. Coloma) เมื่อปี 2008 ระหว่างเก็บตัวอย่างให้พิพิธภัณฑ์ ต่อมาได้มีการออกสำรวจ  อุทยานแห่งชาติโคตาคาชิคายาพาส (Cotacachi-Cayapas National Park) ในเอกวาดอร์ จึงพบว่ามีกบชนิดนี้อยู่จำนวนจำกัด หลังจากพื้นที่ป่าถูกถางออกไปเพื่อการเกษตร จึงได้มีการเพาะเลี้ยงลูกกบขึ้นภายใต้โครงการอนุรักษ์สัตว์เลื้อยคลายแอมฟิเบียนอาร์ค (Amphibian Ark project) เพื่อเป้าหมายในการขยายพันธุ์และเพิ่มประชากรในธรรมชาติต่อไป 

 

9.

บึ้งปล้องไผ่พระเจ้าตากสิน 

Taksinus bambus 

Rare Species
Photo: https://www.smithsonianmag.com/smart-news/a-new-species-of-tarantula-discovered-by-thai-youtuber-180979428/

เมืองไทยเองก็ไม่น้อยหน้า โดยเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 ได้มีการตีพิมพ์ผลการวิจัยอย่างเป็นทางการถึงการค้นพบบึ้ง หรือ ทารันทูล่า (Tarantula) สกุลใหม่ของไทยและของโลกที่จังหวัดตาก โดยได้ชื่อว่า บึ้งปล้องไผ่พระเจ้าตากสิน หรือ Taksinus bambus เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และยังเป็นการค้นพบในพื้นที่จังหวัดตากอีกด้วย 

 บึ้งปล้องไผ่พระเจ้าตากสิน ถูกพบโดยยูทูบเบอร์นักเดินป่าชื่อดังอย่าง โจโฉ – ทรงธรรม สิปปวัฒน์ ขณะออกทริปในป่าที่แม่ท้อ อำภอเมืองตาก จังหวัดตาก และพบบึ้งชนิดนี้อาศัยในปล้องไผ่ จากนั้นจึงได้รับความร่วมมือจาก .ดรนรินทร์ ชมภูพวง และชวลิต ส่งแสงโชติ ผู้เชี่ยวชาญด้านแมงมุมในการร่วมกันทำการศึกษา จนได้ข้อสรุปที่นำไปสู่การค้นพบบึ้งสกุลใหม่ของบึ้งเอเชีย Ornithoctoninae ในรอบ 104 ปี และเป็นบึ้งสกุลแรกที่เป็นผลงานคนไทย 100%  

Rare Species
อ.ดร. นรินทร์ ชมภูพวง และทีมผู้คนพบบึ้งปล้องไผ่พระเจ้าตากสิน
Photo: https://www.smithsonianmag.com/smart-news/a-new-species-of-tarantula-discovered-by-thai-youtuber-180979428/

.ดรนรินทร์ เผยว่าปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ป่าครอบคลุมพื้นที่ 31.64% ของประเทศ และยังมีสัตว์ป่าอีกหลายชนิดที่ไม่ได้รับการบันทึกในประเทศไทย การค้นพบและการศึกษาเกี่ยวกับบึ้งปล้องไผ่พระเจ้าตากสินในครั้งนี้จึงเป็นการช่วยปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพของสิ่งมีชีวิต โดยการสร้างความตระหนักรู้ถึงพวกเขา รวมถึงการจัดการและการปกป้องผืนป่าอย่างเหมาะสมต่อไป 

อ้างอิง