w©rld

เป็นเวลากว่าเวลาสิบห้าปี

ที่ ยอด – พิศาล แสงจันทร์ และ บอล – ทายาท เดชเสถียร ผู้สร้างสรรค์รายการ ‘หนังพาไป’ พาผู้ชมไปเยือนยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก แต่กระนั้นการนำเสนอเรื่องเล่าผ่านสื่อดูจะไม่เป็นตามที่หวัง เพราะหลายสิ่งที่อยากพูดก็ใช่ว่าจะพูดได้ หนังพาไปจึงต้องผันตัวมาเป็น ‘ไหนพาปัง’ รายการท่องเที่ยวเชิงสารคดีโฉมใหม่ในโลกออนไลน์ที่สื่อสารกับสังคมอย่างตรงไปตรงมา ทว่าละมุนละไม ซึ่งตอนนี้ได้เดินทางมาถึงตอนที่ 7 แล้ว

ทั้งนี้ บอลและยอดยืนยันว่าไหนพาปังไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับหนังพาไป เพียงแค่ใช้ชื่อกลับหน้าไปหลังและหลังไปหน้า แต่หากเทียบตัวเนื้อหาย่อมมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

การกลับมาของ บอล และ ยอด สร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากที่พาผู้ชมท่องไปกับความตื่นตาตื่นใจในเทศกาลหนังโป๊ที่ไต้หวัน ทั้งคู่ก็ตัดสินใจว่า มันถึงเวลาแล้วที่จะหันมาพูดถึงประเด็นเรื่อง ‘ยาเสพติด’ กันบ้าง

ยอด – บอล

 

‘ยาเสพติดเป็นภัยต่อชีวิต เป็นพิษต่อสังคม’ 

นี่อาจเป็นวลีที่สลักอยู่ในความทรงจำของใครหลายๆ คน ไม่เว้นแม้แต่ บอล และ ยอด  แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าประเทศอื่นๆ ไม่ได้ใช้วิธีแก้ไขปัญหายาเสพติดเหมือนไทย ความสงสัยนี้ผลักให้ทั้งคู่แพ็คกระเป๋าและออกเดินทางไปเหยียบแผ่นดิน มาเลเซีย เดนมาร์ก และ เนเธอร์แลนด์ จนออกมาเป็นซีรีส์ชุด ‘The Secret places’ สถานที่ลับจับหัวใจที่อาจจะพลิกเปลี่ยนมุมมองวิธีแก้ปัญหายาเสพติดของคุณไปตลอดกาล

 

เมื่อปีนังมีตึก AARG ที่พร้อมมอบเข็มฉีดยาแจกฟรีให้กับผู้เสพ

เดนมาร์กมี Fixelace รถตู้ซึ่งเป็นศูนย์เสพยาเคลื่อนที่และเจ้าหน้าที่คอยดูแลหากคุณเผลอเสพยาเกินขนาด

และเนเธอร์แลนด์มี De regenboog groep ห้องเสพยาถูกกฎหมายที่ให้บริการพร้อมเครื่องซักผ้าที่สามารถปลุกความเป็นมนุษย์ด้วยแนวคิดการทำให้รูปลักษณ์ดูสะอาดจนไม่รู้สึกแปลกแยกจากสังคม

แม้ทั้งสามประเทศจะมีบริบทที่ต่างกันไม่ว่าจะเป็นสถานที่หรือผู้คน แต่สิ่งหนึ่งที่มีเหมือนกันคือสวัสดิการยาเสพติดที่ถูกจัดสรรโดย ‘รัฐ’ ซึ่งฟรีและทั่วถึง กล่าวคือ ตราบใดที่คุณเข้ามาในพื้นที่ศูนย์เสพยาปลอดภัย คุณก็จะได้รับการดูแลในฐานะมนุษย์คนหนึ่งตามหลักคิด ‘คนเท่ากัน’ 

นี่เป็นแนวคิดที่กลับหัวกลับหางจากการแก้ไขปัญหาของไทยโดยสิ้นเชิง และเป็นความท้าทายอีกครั้งของบอล-ยอด ที่ไปค้นหาคำตอบว่าทำไมมาเลเซีย เดนมาร์ก และเนเธอร์แลนด์จึงมอบสวัสดิการให้แก่คนเสพยา ? นี่เป็นการแก้ไขปัญหายาเสพติดจริงหรือ ? จะส่งเสริมให้คนเสพยามากขึ้นหรือเปล่า ?

และ แท้จริงแล้วเราอยากอยู่ในสังคมแบบใด ?

 

อะไรเป็นจุดเริ่มต้นให้อยากทำ ‘The Secret Places’ ซีรีส์ชุดแรกของไหนพาปัง จนต้องบินข้ามน้ำ ข้ามทะเลไปเยือนถึงสามประเทศ

ยอด : ขอเวลา 3 วันได้ไหม (หัวเราะ) ถ้าสั้นๆ เราเคยทำรายการหนังพาไปซึ่งเป็นรายการทีวีมานานถึง 15 ปี ตอนแรกเราก็มาด้วยอุดมคติว่าเราเล่าได้ทุกเรื่องในทีวีสาธารณะแห่งแรกของไทยปลอดการเมืองและไม่มีโฆษณามากำกับทิศทางว่าเราต้องทำสื่อแบบไหน  ตอนนั้นเราใสมาก 

ประกอบกับที่ช่วงนั้นเป็นยุคที่สื่อสาธารณะเกิดขึ้น ทุกคนก็รู้สึกว่าสื่อสาธารณะต้องฉีกตัวให้เป็นอิสระ พอเราได้ทำหนังพาไปเราก็รู้สึกสนุก แต่หลังข้ามผ่านเวลามา 15 ปีสื่อสาธารณะก็เริ่มแก่ตัวลง คนทำงานก็เริ่มเห็นอุปสรรคบางอย่างที่ทำให้เรื่องบางเรื่องไม่สามารถเล่าได้ หรือที่เคยคิดว่าปลอดการเมือง ปลอดทุน ก็ไม่ได้ปลอดเสียทีเดียว นี่เป็นเรื่องของการเจรจาว่าเราสามารถพูดอะไรได้มากน้อยแค่ไหน

ต่อมาเมื่อหนังพาไปก้าวเข้าสู่ซีซั่นที่ 5 สถานการณ์การเมืองเริ่มรุนแรง และไม่ใช่แค่การเมืองแต่มีอะไรอีกเยอะมากที่เราพูดไม่ได้ ซึ่งรายการเรามักไปในประเทศที่พูดถึงเรื่องอ่อนไหว และแม้เราจะไม่ได้พูดถึงประเทศไทยแต่พูดถึงประเทศที่เราไปมา แต่ทั้งนี้สถานีก็มีความเซนซิทีฟ และเราก็เข้าใจคนทำงานว่าพอเดินมาถึงจุดหนึ่งเขาก็ต้องห่วงเรื่องอาชีพการงานและครอบครัว อุดมคติของสื่อสาธารณะจึงเปลี่ยนไป เราเลยคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะทำสื่อสาธารณะที่เราอยากทำจริงๆ ในช่องทางออนไลน์ ซึ่งเราเริ่มเห็นว่าคนสามารถเล่าอะไรได้เยอะโดยไม่ต้องผ่านกองเซนเซอร์ ไม่ถูกอุดปาก อาทิ ประเด็นเรื่อง sex เรื่องยาเสพติด เป็นต้น เราก็เลยย้ายแพลตฟอร์มมาอยู่บนออนไลน์เพราะว่าบางอย่างเราเล่าไม่ได้ในทีวี 

บอล : นั่นเป็นที่มาของไหนพาปัง 3 ตอนแรก

ยอด : ตอนแรกเราจะไปร่วมเทศกาลหนังโป๊ที่ไต้หวัน พอมาบอกกับสถานีว่าอยากเล่าเรื่องนี้ คนในสถานีที่ทำงานร่วมกันมาสิบกว่าปีก็อึ้ง  ซึ่งเรารู้ว่าการจะเล่าในสิ่งที่อยากเล่าได้จำต้องผ่านความเห็นของคนหลายคน มีเซนเซอร์ มีผู้ดูแลรายการ ไปจนถึง ผอ. สถานี ถ้าเขาไม่เอาก็จบ ปิดประตู สุดท้ายแล้วงานก็ไม่ใช่ของเรา เหมือนเราทำหนังสักเรื่องหนึ่ง เราคิดบท พัฒนาบท แต่อยู่มาวันหนึ่งบริษัทค่ายหนังอยากปรับบทให้ขายได้ เขาเห็นว่าถ้าทำแบบนี้จะมากเกินไป ควรทำให้น้อยลงหน่อย ทำไปทำมาก็จะไม่ใช่ของของเรา ไม่ใช่สิ่งที่เราตั้งใจเล่า

บอล : ที่เราไปเทศกาลหนังโป๊ที่ไต้หวัน เป็นส่วนที่ออกทีวีไม่ได้ อาจถูกตัดนู่น ตัดนี่เยอะ แต่เรารู้สึกว่าเนื้อหานี้ดี สามารถตั้งคำถามกับสังคมได้ เลยลองเอาส่วนที่ออกทีวีไม่ได้มาใส่ไว้ในออนไลน์

 

 ยาเสพติดไม่เคยหมดไปจากโลกไม่ว่าประเทศจะเจริญมากแค่ไหน แต่เขาจัดการกับปัญหานี้อย่างไร ตรงนี้ต่างหากที่ท้าทายมาก

 

ยอด : แพลตฟอร์มออนไลน์ตอบโจทย์เราที่ต้องการจะเล่าเรื่อง sex แต่หลังจากได้ไปเทศกาลหนังโป๊เราก็ยังไม่พอ เราก็เลยไปทำเรื่องยาเสพติด (หัวเราะ) และเลือกไปประเทศอย่างเนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก และมาเลเซีย เพื่อให้เห็นว่ายาเสพติดยังคงมีปัญหาอยู่แม้ในประเทศเหล่านี้ ซึ่งพอค้นเรื่องยาเสพติดเยอะเข้าก็เห็นว่าไทยก็มีโครงการที่ทำแต่เราไม่รู้ ยิ่งไปดูคลิปของคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่เขาพูดเรื่องโครงการแจกเข็ม คนในคอมเมนต์ตามด่ากันเยอะมาก ตอนนั้นเราช็อก ส่วนอีกใจหนึ่งรู้สึกท้าทาย เพราะเวลาคนฟังประเด็นเหล่านี้แล้วเขาปิดประตู ปิดการรับรู้ เราเลยรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสนใจ

บอล : พอเราไปได้ยินแนวคิดเรื่องการแจกเข็มให้กับคนใช้ยาเสพติด ตอนแรกเราเกิดความรู้สึกว่า มีอย่างนี้ด้วยเหรอ ไม่ทำให้คนเสพยามากขึ้นเหรอ ทำไมเอาเงินมาทำอะไรแบบนี้ ซึ่งพอได้มีโอกาสไปคุยเรื่องยาเสพติดกับมูลนิธิรักษ์ไทยก็ค้นพบว่าจริงๆ แล้วเมืองไทยก็พยายามที่จะใช้ไอเดียนี้ จากนั้นเราเลยไปค้นข้อมูลแล้วพบว่าเขาไม่ได้มีแค่โมเดลแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบไทย แต่ที่มาเลเซีย เวียดนาม ออสเตรเลีย หรือแถบยุโรปก็มีอะไรที่ว้าวมาก เราจึงวางแผนเดินทางไปโดยมีรักษ์ไทยคอยติดต่อประสานงาน

พอเป็นเรื่องของยาเสพติด เราก็รู้เลยว่ายากมากแน่ๆ ถ้าจะเล่าผ่านทีวีเพราะกฎเกณฑ์เยอะ ก็เลยเลือกทำในช่องของตัวเองต่อ

ทำไมต้องเป็นเนเธอร์แลนด์ เดนมาร์กและมาเลเซีย

ยอด : เหตุผลอย่างเป็นทางการ คือ 

หนึ่ง…เป็นประเทศที่เขาว่ากันว่าศิวิไลซ์ แต่ยังมีปัญหายาเสพติด ซึ่งเราอยากรู้ว่าเขาแก้ไขอย่างไร พอไปค้นข้อมูลก็พบว่า แม่ง ! เขาใช้วิธีคิดแบบนี้ได้ยังไงวะ  ในสมัยก่อนเรารับไม่ได้เลย ทำไมไม่ปล่อยคนเสพให้อยู่ในส่วนของเขา ทำไมไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ 

สอง…ประเทศเหล่านี้น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีถ้าจะเสนอให้คนลองเปิดประตูรับแนวคิดใหม่ๆ ดู เราแค่ชี้ให้เห็นว่ามีประตูนี้อยู่ ลองคิดว่าเราไปประเทศอื่นที่อาจจะลำบากมากกว่าไทย คนก็อาจจะมีการต่อต้านและมีคำถามมากกว่า 

บอล :  เรารู้สึกว่าคนไทยบางส่วนอาจมองว่าประเทศที่เขาว่ากันว่าเจริญแล้วดูไม่น่ามีปัญหาด้านยาเสพติด และถึงมีก็คงไม่รุนแรงเท่า แต่พอเราไปจริงๆ ก็พบว่าประเทศเหล่านี้มีปัญหาหมดเลย ยาเสพติดไม่เคยหมดไปจากโลกไม่ว่าประเทศจะเจริญมากแค่ไหน แต่เขาจัดการกับปัญหานี้อย่างไร ตรงนี้ต่างหากที่ท้าทายมาก

ยอด : แนวคิดเรื่องการแจกเข็มมีกระจายอยู่หลายประเทศ สก็อตแลนด์ก็กำลังถกเถียงกัน สวิตเซอร์แลนด์คนก็แนะนำให้เราไปเยอะมาก แต่ประเด็นคือเราเคยไปมาแล้วและแพงมาก สุดท้ายเลยเลือกเนเธอร์แลนด์กับเดนมาร์ก

บอล : เหตุผลไม่ทางการก็คือมีตั๋วโปรโมชั่น นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เราได้ไปนู่น ไปนี่หลายๆ ที่ (หัวเราะ)

 

การแก้ปัญหายาเสพติดของมาเลเซีย เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ น่าสนใจอย่างไร

ยอด : นี่คือพัฒนาการ ก่อนหน้านี้เราก็มีความคิดแบบเก่าว่ายาเสพติดเป็นภัยต่อชีวิต เป็นพิษต่อสังคม แถวบ้านเรา สมัยยุคของนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ก็มีการค้ายา แล้ววันหนึ่งคนค้ายาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ในสมัยนั้นเรารู้สึกว่าเป็นวิธีการกำจัดที่เด็ดขาด และการเพิ่มโทษนั้นได้ผล เรามองนายกเป็นวีรบุรุษ แต่พอโตขึ้นเราพบว่าการที่คนหายไปเหมือนไม่มีตัวตนนั้นไม่ถูกต้อง และเมื่อพิจารณาอีกครั้ง เราก็ตั้งคำถามว่าวิธีการแก้ไขปัญหาแบบนี้ได้ผลจริงหรือ เพราะแม้ว่าคนจะกลัวแต่ปัญหามันไม่ได้หมดไป 

ตอนแรกเราคิดเหมือนคนส่วนมากในสังคม คือปล่อยให้ตำรวจจัดการอย่างเด็ดขาด คุณจะมาอ้างเหตุผลว่าจำเป็นต้องใช้ยาไม่ได้ คุณต้องเข้มแข็งสิ สวดมนต์เยอะๆ สิ ต่อมาเมื่อเราดูคลิปคุณสรยุทธจึงพบว่าเราเองก็พร้อมจะด่า แค่เห็นแนวคิดแจกเข็มเราก็ปิดประตูก่อนเลย แต่พอได้ฟังคนที่เขาทำงานในแวดวงนี้อธิบายเหตุผลว่าเขาแจกเข็มไปเพื่ออะไรเราก็เข้าใจ และเริ่มรับรู้ว่าสิ่งที่เขาทำก็มีเหตุผล เหมือนเริ่มตื่นรู้ในประเด็นต่างๆ พอมีคนชี้ว่ามีประตูอยู่ตรงนี้ เราก็แง้มดู ข้อมูลก็พรั่งพรูออกมา

การเดินทางไปสามประเทศทั้งมาเลเซีย เดนมาร์ก และเนเธอร์แลนด์ เป็นเหมือน ‘บันไดสามขั้น’ สำหรับเราที่ทำให้พบว่าแนวคิดเรื่องยาเสพติดไปไกลมากกว่าการแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติด

บันไดขั้นแรก คือ ปีนัง มาเลเซีย ทำให้เราเห็นการแก้ปัญหาที่มุ่งปกป้องชีวิตคน ทำเพื่อให้สังคมดีขึ้นเพราะเขาหมดทางเลือก เขาเห็นว่าวิธีแจกเข็มดีกว่า แต่ประเด็นเรื่องสิทธิก็ยังเหมือนไทย คนเสพยายังเป็นพลเมืองชั้นสอง ชั้นสาม คุณเอาเข็มไปแล้วต้องอยู่ในระบบ ทำตามข้อปฏิบัติ นโยบายนี้ประหยัดงบประมาณได้จริง จำนวนผู้ติดเชื้อ HIV ก็ลดลงจริงๆ ทั้งยังดีต่อระบบสาธารณสุขอีกด้วย 

บันไดขั้นที่สอง คือ เดนมาร์ก เราเริ่มเห็นการให้สิทธิกับผู้เสพยา ซึ่งทำให้เรารู้สึกเหมือนโดนต่อยหน้า เพราะเดนมาร์กชี้ให้เห็นว่าจริงๆ แล้วคนเสพยาก็เป็นคน เป็นมนุษย์ สถานะเขาเท่ากับเรา เขาเป็นเหมือนชนกลุ่มน้อยกลุ่มหนึ่งที่มีเหตุผลในการเลือกของตนเอง และยาเสพติดก็ไม่ต่างจากเหล้า คุณดื่มเหล้า ดื่มกาแฟ คุณก็ติด ตัวอย่างเช่น ถ้าไม่ได้ดื่มกาแฟวันนี้ คุณปวดหัว ถ้าไม่ได้สูบบุหรี่วันนี้ คุณทำงานไม่ได้เลย ยิ่งเมื่อเรากลับมาคุยกับเจ้าหน้าที่ไทยที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราจึงยิ่งเข้าใจว่าคนบางคนเขาใช้ยาเพื่อให้สามารถทำงานได้ ถ้าไม่ใช้ยาก็ไม่มีรายได้ บางคนต้องใช้แรงงานเพื่อทำไร่ ทำนา ถ้าไม่มียาเขาก็ทำงานไม่ได้

 

คนเสพยาจะมองสถานะของตัวเองเป็นอย่างที่คนในสังคมมองพวกเขา นี่คือการตบหน้าเราเลยนะ การมีคนว่าบอกว่าเราเป็นไพร่แล้วเราก็รู้สึกว่ากูเป็นไพร่ กูต้องมีชีวิตอย่างนี้แหละ กูมีสิทธิในสังคมได้เท่านี้แหละ จุดนี้ทำให้เราเจ็บปวดมาก

 

บอล : รัฐไทยคิดว่าถ้าคุณติดยาก็ต้องเข้ารับการบำบัด ซึ่งคนทำงานด้านนี้เขาโต้แย้งว่าแท้จริงแล้วการบำบัดไม่ได้ใช้เวลาแค่วันเดียวแล้วหาย แต่ต้องบำบัดถึงสองอาทิตย์หรือเป็นเดือน ซึ่งมีแต่คนรวยเท่านั้นที่จะเข้าไปรับการบำบัดได้โดยไม่กระทบกับชีวิตประจำวัน แต่สำหรับคนติดยาบางคนเขาก็ไม่พร้อมจะไปบำบัด เขาขาดแคลนรายได้ ถ้าเข้าไปบำบัดแล้วเขาจะทำมาหากินอะไร ลูก เมียจะอยู่ยังไง บ้านเช่าจะทำยังไง เราไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน บางทีเขาอาจจะอยากเลิกยา แต่ไม่มีช่วงเวลาที่จะเดินออกไปจากวิถีชีวิตตอนนี้ได้ ดังนั้นการผลักให้คนไปเข้ารับการบำบัดอย่างเดียวก็ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา

ยอด : เพราะอย่างนี้เดนมาร์กเลยอุ้มชูคนเสพยา เขามองว่าคนเหล่านี้มีสิทธิเท่ากันกับคนในสังคม เป็นส่วนหนึ่งของสังคม เราเลยเข้าใจมุมมองนี้ ซึ่งก็ต้องถกเถียงกันต่อไป 

ส่วนบันไดขั้นที่สาม คือ เนเธอร์แลนด์ เจ้าหน้าที่เขาเข้าใจธรรมชาติของคนเสพยาและคนไร้บ้านว่าคนในสังคมจะมองว่าพวกเขาแปลกแยก และก็เป็นการยากที่จะเปลี่ยนแนวคิดของคนในสังคม ความน่าเจ็บปวดอย่างหนึ่งที่เนเธอร์แลนด์บอกเราคือ คนเสพยาจะมองสถานะของตัวเองเป็นอย่างที่คนในสังคมมองพวกเขา นี่คือการตบหน้าเราเลยนะ การมีคนว่าบอกว่าเราเป็นไพร่แล้วเราก็รู้สึกว่ากูเป็นไพร่ กูต้องมีชีวิตอย่างนี้แหละ กูมีสิทธิในสังคมได้เท่านี้แหละ จุดนี้ทำให้เราเจ็บปวดมาก

เราเข้าใจเลยว่าคนที่เขาทำงานในแวดวงนี้เขาเข้าใจความเจ็บปวดของคน ก็เหมือนกับการที่เราบอกตัวเองว่า เราทำงานทีวีเราก็ต้องทำรายการแบบนี้ เพราะสังคมเป็นอย่างนี้ สถานะของเราก็เล่าเรื่องได้แค่นี้ แล้วเราก็ควรเซนเซอร์ตัวเอง สิ่งนี้เหมือนกันเลย 

เราจึงเข้าใจว่าบันไดขั้นเนเธอร์แลนด์คือการยกความเป็นมนุษย์ให้แก่คนเสพยา เขาก็ไม่ได้ด่าทอแต่ให้ความเมตตา ‘พวกคุณเป็นมนุษย์’ ‘พวกคุณมีสิทธิ’ เหมือนคำกล่าวที่บอกว่า ‘เมตตาคุณธรรมค้ำจุนโลก’ เราเข้าใจเลยว่าบางปัญหามนุษย์เราก็ต้องใช้ความเมตตาในการแก้ไข 

ท้ายที่สุดแล้วบันไดสามขั้นนี้จึงสำคัญมากสำหรับเรา ทำให้เราเข้าใจมนุษย์และประเด็นยาเสพติดมากขึ้น

หลังจากที่ได้ทำประเด็นเหล่านี้ เราย้ายไปยืนอยู่ในฝั่งตรงข้ามกับคนในสังคมที่ต่อต้าน เราเกิดความรู้สึกว่า เขาเป็นมนุษย์ เขามีสิทธิ เรารู้สึกว่าความเมตตาธรรมสำคัญมากต่อการเล่าเรื่อง และเราต้องใช้วิธีนี้ เพราะเรากำลังไต่ ‘บันไดขั้นที่สี่’ อยู่ 

นั่นคือ แม้เราได้ไปเห็นแต่เราอาจเห็นแค่ด้านเดียวของบันไดสามขั้น แต่ขั้นที่สี่จะทำให้เราเห็นว่าจุดกึ่งกลางคืออะไร ปัญหายาเสพติดไม่ได้แก้ไขได้ด้วยบันไดสามขั้นทั้งหมด ไม่มีวิธีการไหนดีที่สุด แต่มันต้องค่อยๆ แก้ไขไป มาเลเซีย เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์เองก็มีปัญหา เพียงแต่เป็นปัญหาคนละแบบกับไทย เราจึงต้องมองภาพรวมเพื่อเข้าใจคนที่ต่อต้านและคนที่เห็นด้วยมากขึ้น

สำหรับทั้งสองคน ถ้าต้องเลือกหนึ่งในสามประเทศคิดว่านโยบายของประเทศไหนปังสุด 

บอล : ถ้าให้เลือกก็อาจเป็นโมเดลของเดนมาร์กกับเนเธอร์แลนด์ เพราะแนวคิดคำว่า ‘คนเท่ากัน’ ของเขาชัดและกว้างมาก เวลาเราคิดเรื่องคนเท่ากันมันก็จะอยู่ในกรอบเรื่องสิทธิ เสรีภาพ การแต่งงาน การเข้าถึงทรัพยากร ซึ่งบางครั้งเราไม่ได้ตีความไปไกลถึงคนที่เป็นชนกลุ่มน้อยหรือคนที่ถูกตีตราในสังคม พอได้ไปเห็นแล้วก็รู้สึกว่าการได้ไปอยู่ในสังคมแบบนี้ดีจัง เพราะไม่ว่าเราจะทำผิดพลาดหรือทำสิ่งไม่ดี เราก็จะไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง 

ตอนเราไปหาข้อมูลเรื่องศูนย์ฉีดยาปลอดภัยในเดนมาร์กกับเนเธอร์แลนด์เราพบเคสหนึ่งจาก BBC หญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาใช้บริการศูนย์ฉีดยาปลอดภัยทุกวัน โดยเขาเริ่มใช้ยาเนื่องจากเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วรักษาไม่หาย ทำให้มีอาการเจ็บปวดจากอุบัติเหตุนั้นและทางเดียวที่จะระงับความเจ็บปวดได้คือการใช้ยา จึงจะสามารถไปทำงานได้ พอยาหมดฤทธิ์เขาก็กลับมาเสพใหม่ นี่คือกรณีติดยาอย่างไม่มีทางเลือก ถ้าไม่เสพเขาอยู่ไม่ได้ ในสังคมไม่ได้มีแค่คนที่เลือกเสพยาเพราะสนุกอย่างที่เราเคยตีตรา และสังคมเราไม่ได้ให้พื้นที่กับบุคคลเหล่านี้เลย

ตอนที่เราเริ่มทำเรื่องยาเสพติดเราก็ตั้งคำถามว่า ทำไมกาแฟถึงเป็นสิ่งที่ถูก แล้วยาเสพติดถึงถูกตีตราว่าผิด เราคิดว่าบนโลกใบนี้คงมีการนิยามหรือจัดประเภทเรียบร้อยแล้ว แต่การตั้งคำถามนี้ก็ทำให้เราฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าตัวเราเองก็ติดน้ำตาล ติดโค้ก ติดกาแฟ เรากินกาแฟได้อย่างหรูๆ เท่ๆ ในขณะที่คนติดยาเขาก็แค่ติดในสิ่งที่เขาต้องใช้

 

วันหนึ่งกัญชายังถูกกฎหมายขึ้นมาได้ แท้จริงแล้วความถูกผิดของโลกใบนี้ สุดท้ายแล้วถูกผิดที่ตัวมันหรือที่เรากำหนดเอง

ยอด : ขอเป็นพลเมืองโลกได้ไหม อยากไปดูประเทศอื่นที่เขาใช้โมเดลประเภทนี้มานานเพื่อดูว่าเขามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง เพราะพอคนในสังคมรู้สึกว่าพวกเขามีสิทธิ คนที่ใช้ยาเสพติดก็จะสามารถพกยาไปไหนมาไหนได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งสิ่งนี้เป็นการสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาจากการแก้ไขปัญหาหรือเปล่า เราอยากไปดูประเทศเหล่านั้น เลยขอเป็นพลเมืองโลกไว้ก่อน อันที่จริงก็อยากไปสวิตเซอร์แลนด์แต่ตอนนี้ไม่มีเงิน (หัวเราะ)

 

เดนมาร์กก็ไม่ได้มีอุบัติเหตุทางประวัติศาสตร์เกิดขึ้น แต่เขามีฐานความคิดเรื่องคนเท่ากันเป็นทุนเดิม ทำให้คนในสังคมเปิดรับแนวคิดเหล่านี้ได้ 

 

สาเหตุที่ทำให้การจัดการยาเสพติดของทั้งสามประเทศแตกต่างจากไทยคืออะไร

ยอด : ถ้ามาเลเซียเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านนี้จะเข้าไปคุยกับตำรวจว่าวิธีการแจกเข็มได้ผล สามารถระงับการแพร่ระบาดของเชื้อ HIV ได้ ตำรวจก็เข้าใจ นี่เป็นโครงสร้างรูปแบบการอ้างอำนาจจากด้านบน พอเจ้ากระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นผู้มีอำนาจบอกว่าวิธีนี้จะดีกับสังคมของเรามากกว่า ตำรวจก็เปิดรับตาม

ส่วนเดนมาร์กเขาจะทำงานร่วมกับตำรวจ ตอนแรกเจ้าหน้าที่ก็เสี่ยงโดนจับแต่เขาใช้วิธีการเข้าไปคุยกับตำรวจว่าเรามาลองวิธีการใหม่กันไหม แล้วตัวเลขที่ออกมาก็ได้ผล เดนมาร์กเก๋มากเพราะเขาใช้ แนวคิดการลดอันตราย (Harm reduction) ซึ่งส่งผลให้ผู้ติดยาปลอดภัย ไม่มีคนนอนตายข้างถนน และไม่มีเข็มฉีดยาเกลื่อนตามทางจนเป็นอันตรายต่อคนภายนอก ปัญหาอาชญากรรมก็ลดน้อยลง เราเลยถามเจ้าหน้าที่ต่อไปว่าหากเกิดกรณีที่มีการค้ายาแบบผิดกฎหมายขึ้นมา เกิดความรุนแรงขึ้นมาคุณจะรับผิดชอบเรื่องเหล่านี้อย่างไร เดนมาร์กให้คำตอบกับเราว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจ หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ศูนย์เสพยาคือการรักษาชีวิต ส่วนตำรวจต้องทำหน้าที่รักษาความสงบของสังคม

หน้าที่ของฉันคือการรักษาชีวิตคน เรื่องอะไรที่จะต้องมารับผิดชอบความรุนแรงในสังคม นั่นเป็นหน้าที่ของตำรวจต่างหาก

บอล : อีกหนึ่งประเด็นสำคัญ เราคิดว่าการเกิดแนวคิดแจกเข็มขึ้นมาได้จำต้องอาศัย ‘อุบัติเหตุทางประวัติศาสตร์’ หรือเกิดเหตุการณ์วิกฤตบางอย่างที่ทำให้แนวคิดเหล่านี้ถูกหยิบขึ้นมาใช้ อย่างกรณีของมาเลเซีย ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ลุกขึ้นมายอมรับแนวคิดนี้เลย แต่ตอนนั้นโรค HIV ระบาดหนัก และรัฐบาลจำเป็นจะต้องทำอะไรสักอย่าง แนวคิดแจกเข็มจึงถูกหยิบมาทดลองซึ่งสุดท้ายก็ได้ผล ส่วนเนเธอร์แลนด์ก็มีแนวคิดในประเด็นนี้มากว่าสี่สิบปีแล้ว ถือว่าเป็นประเทศแรกๆ ของโลกเลย แม้ตอนแรกที่มีคนเสนอรัฐบาลก็อิดออด แต่พอมีอุบัติเหตุทางประวัติศาสตร์ การทดลองแนวคิดแจกเข็มก็เกิดขึ้น

ยอด : ตอนที่ยังไม่มีการแจกเข็ม เนเธอร์แลนด์มีสารเสพติดประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมในหมู่คนเสพยา ทำให้เกิดการรวมตัวขึ้นแล้วแบ่งปันเข็มฉีดยากัน โดยอาศัยการปักไว้ตามต้นไม้ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีแนวคิดเรื่องโรค HIV ทำให้การติดเชื้อแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ตามสนามเด็กเล่นก็มีเข็มซ่อนไว้เต็มไปหมด นอกจากนั้นยาเสพติดประเภทนี้เมื่อเสพแล้วก็จะตายเพราะมีการปนเปื้อนเยอะมาก อัตราการเสียชีวิตสูงมากจนกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ

บอล : เมื่อคนเสียชีวิตเกลื่อนถนน ผู้คนในสังคมและรัฐบาลก็เริ่มตั้งคำถามว่าเราจะใช้วิธีการใดเพื่อปกป้องชีวิตคน การเกิดอุบัติเหตุทางประวัติศาสตร์เช่นนี้ทำให้แนวคิดการจัดการปัญหายาเสพติดของเขาเกิดขึ้นได้และแตกต่างจากไทย 

ทั้งนี้ เราก็ไม่ได้คาดหวังให้ทุกประเทศมีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น เดนมาร์กก็ไม่ได้มีอุบัติเหตุทางประวัติศาสตร์เกิดขึ้น แต่เขามีฐานความคิดเรื่องคนเท่ากันเป็นทุนเดิม ทำให้คนในสังคมเปิดรับแนวคิดเหล่านี้ได้ 

อย่างที่เดนมาร์กมี ชุมชนคริสเตียเนีย (Christiania) ซึ่งเป็นดินแดนแห่งบุปผาชน ในช่วงสงครามเวียดนามหรือสงครามโลกครั้งที่สอง คนหนุ่มสาวในยุคนั้นได้ไปรวมตัวกันสร้างชุมชนด้วยความเชื่อในเสรีภาพและแนวคิดในอุดมคติของพวกเขา ชุมชนนี้อยู่กลางโคเปนเฮเกนและมีพื้นที่ใหญ่มาก และกฎหมายเดนมาร์กไม่สามารถบังคับใช้ได้ทุกข้อ เช่น คุณสามารถใช้กัญชาได้ในพื้นที่ได้ เขาพยายามสร้างชุมชนอุดมคติขึ้นมากลางโคเปนเฮเกน และปัจจุบันพื้นที่นี้ก็ยังอยู่ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าเดนมาร์กยอมรับความแตกต่างหลากหลายมากๆ

เมื่อเดนมาร์กมีแนวคิดอยากสร้างสังคมในอุดมคติขึ้นมา ผู้คนเลยยอมรับแนวคิดเรื่องการแจกเข็มได้ง่ายขึ้น เขาใฝ่ฝันถึงสังคมที่ดี แม้มีคนต่อต้าน แต่ถ้ามีประตูที่เปิดแล้วคนก็จะเข้าใจมากขึ้น

คุณคิดอย่างไรกับแนวคิด ‘คนเท่ากัน’ 

บอล : แนวคิดคนเท่ากันเมื่อสะท้อนผ่านประเด็นการจัดการยาเสพติดกลับสามารถอธิบายสังคมไทยได้ดีมาก เรามองว่าสังคมไทยมักจะทำให้คนเหมือนกัน แต่ไม่ได้อยากให้คนเท่ากัน ใครที่ต่างออกไปจากความเหมือนที่สังคมยึดถือ ความเป็นคนก็จะลดลงทันที ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่กรณีคนติดยา แต่แค่คุณเป็นคนที่ต่างออกไป อย่าง LGBTQ คนพิการ คนเรียนไม่เก่ง สังคมก็ไม่มีที่ยืนให้ ดังนั้นคุณจะต้องพยายามเป็นเหมือนคนที่สังคมอยากให้เป็น นี่คือปัญหาของสังคมที่เราอยู่ 

แนวคิดคนเท่ากันจะช่วยให้เราไม่มีปมด้อยในความต่างของตนเอง เพราะทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิต แม้เขาเป็นคนที่ทำร้ายสังคม เราก็จัดพื้นที่ให้เขาได้ สุดท้ายแล้วแนวคิดคนเท่ากันเป็นจริงกว่าคนเหมือนกัน เพราะคนเราไม่มีทางเหมือนกัน ขนาดครอบครัวเดียวกันยังไม่เหมือนกันเลย 

บอล : ศูนย์เสพยาปลอดภัยในเนเธอร์แลนด์จะมีเครื่องซักผ้าจัดเตรียมไว้ เราว่ามันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก โดยเขามีแนวคิดว่าเมื่อคนไร้บ้านได้ใส่เสื้อผ้าสะอาดๆ อย่างน้อยเขาก็รู้สึกว่ายังเป็นมนุษย์ ไม่รู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกและถูกรังเกียจ แน่นอนว่าทางศูนย์มีอาหารและฮีตเตอร์บริการ คุณสามารถมานั่งจิบกาแฟอุ่นๆ ได้ตลอดทั้งวัน แต่ยิ่งไปกว่านั้นเขามีห้องอาบน้ำและเครื่องซักผ้า น่าอัศจรรย์ เพราะแค่เครื่องซักผ้าเครื่องเดียวกลับสามารถอธิบายมุมมองของมนุษย์ที่มีต่อมนุษย์ด้วยกันอย่างอ่อนโยน ยิ่งใหญ่ และทำได้ง่ายเหลือเกิน

ยอด : ไม่ใช่แค่เรื่องความสะอาดที่จะทำให้เขาไม่ถูกสังคมรังเกียจ แต่ยังเป็นความสะอาดที่พอเขารู้สึกว่าตนเองสะอาด สุขภาพจิตของเขาก็ดีขึ้นโดยไม่ต้องทนจมอยู่กับเรื่องอมทุกข์ นี่คือจากภายนอกเข้าสู่ภายใน อย่างน้อยหากตัวเราสะอาดเมื่อได้ไปเห็นดอกไม้บานจิตใจเราก็อาจจะดีขึ้น ตราบใดที่ยังไม่ตายก็ควรมีโอกาสได้ครุ่นคิดและประคับประคองชีวิต รักษาหัวใจเอาไว้ เพื่อวันหนึ่งเขาก็อาจจะกลับมามองโลกได้ดีขึ้น ไม่ทำร้ายใคร ไม่โกรธแค้นใคร

เป้าหมายของเนเธอร์แลนด์คือการรักษาชีวิตคนทุกคนในสังคม ไม่ใช่ทุกคนบนโลกที่ลองบุหรี่แล้วจะเลิกไม่ได้หรือสูบไปจนตาย เมื่อบุหรี่เลิกได้ ยาเสพติดก็เลิกเช่นกัน ในขณะที่เขายังไม่ได้เลิกเราต้องไม่ให้เขาตาย เพราะสักวันหนึ่งเขาอาจจะกลับมาในสังคม เป็นลูกของใครสักคน เป็นเพื่อนของใครคนหนึ่ง แม้แต่คนไร้บ้าน เราก็ต้องให้ที่ทางเขา ใช้วิธีจากภายนอกสู่ภายในคือรักษาความเป็นมนุษย์ไว้เพื่อสักวันเขาจะกลับมาอยู่ในสังคม นี่คือการให้โอกาสคนที่งดงาม

 

คิดว่ารัฐบาลมีส่วนสำคัญอย่างไรกับการจัดตั้งโครงการเหล่านี้ (AARG, Fixelace, de regenboog groep)

ยอด : สำคัญมาก

บอล : สำคัญและจะต้องดำเนินไปพร้อมกับคนในสังคม รัฐไทยเองก็พยายามจะทำ ซึ่งเขาก็รู้ว่าแนวคิดแจกเข็มทำได้แน่ แต่คนในสังคมอาจจะไม่ยอมรับ ทั้งนี้ เราก็ต้องมอบอำนาจให้รัฐเพราะเราทำเองไม่ได้ กลไกรัฐจึงสำคัญมาก แต่รัฐนั้นจะต้องมองคนเท่ากัน ซึ่งสังคมไทยต้องใช้เวลาและเราก็เชื่อว่ายังมีความหวัง เพราะสังคมเปลี่ยนไปทุกวัน ทุกแง่มุม รัฐเราอาจกำลังจะดีขึ้น (ยิ้ม)

 

แล้วคิดว่ารัฐไทยทำอะไรอยู่

ยอด : นั่นนะสิ (หัวเราะ)

บอล : คิดว่ารัฐต้องก้าวไปไกลกว่าสังคม แต่ทุกวันนี้กลับเป็นสังคมที่คอยทำให้รัฐเดินหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขยะ สิ่งแวดล้อมหรืออะไรก็ตาม เราเห็นแต่ภาคประชาชนที่คอยจัดงานเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้วไปดึงรัฐเข้ามาเกี่ยว ซึ่งความเป็นจริงรัฐก็ได้เงินภาษีจากเราเพื่อไปจัดการประเด็นเหล่านี้อยู่แล้ว รัฐควรขับเคลื่อนสังคม แต่ตอนนี้กลับเป็นเราที่ต้องปลุกให้รัฐตื่นเพื่อให้รัฐมาขับเคลื่อนสังคมอีกที มันกลับหัว กลับหางหมดเลย เราจึงไม่รู้ว่ารัฐทำอะไรอยู่

 

อะไรคืออุปสรรคของสังคมไทยในการเปิดประตูรับวิธีการแก้ปัญหายาเสพติดแบบใหม่ๆ

ยอด : การมองว่าตัวเองเป็นพลเมืองของชาติใดชาติหนึ่ง การมองในมุมลักษณะนี้ทำให้เรามีค่านิยมว่าชาติเราต้องยิ่งใหญ่ เราต้องทำเพื่อชาติ ซึ่งวิธีคิดลักษณะนี้จะทำให้มองไม่เห็นว่าเราควรทำให้โลกนี้ดีขึ้นอย่างไร โดยส่วนตัวคิดว่าถ้าเรามองว่าตัวเองเป็นพลเมืองโลกเราก็จะรู้ว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมสำคัญ โลกจะแตกแล้วยังกูจะต้องยิ่งใหญ่อะไรอีก 

การมองตนเองเป็นชาติใดชาติหนึ่งหรือชนเผ่าใดชนเผ่าหนึ่งคือปัญหา เพราะเราจำกัดตัวเองอยู่ในกรอบที่เผลอคิดไปว่ากว้าง ดังนั้นเราต้องคอยเปิดและขยายกรอบให้ยืดหยุ่น ซึ่งถ้ารัฐไม่ทำเช่นนี้ก็จะบริหารคนไม่ได้เพราะคนก็มีหลายแนวคิด และเมื่อแนวคิดของคนในสังคมเปิดกว้างมากยิ่งขึ้นรัฐต้องเล็งเห็นว่าตนต้องปรับเปลี่ยน ไม่ใช่แค่ขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ แต่ต้องคอยชี้นำสังคมด้วยแนวคิดใหม่ๆ

ในประเด็นเรื่องยาเสพติด ระหว่าง ‘กำจัดผู้มีความผิดปกติออกไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม’ กับ ‘รักษาสิทธิที่จะมีชีวิตแก่คนทุกคนไม่เว้นแม้แต่คนติดยา’ คิดอย่างไรกับสองประโยคดังกล่าว

บอล : เราเห็นด้วยกับประโยค รักษาสิทธิที่จะมีชีวิตแก่คนทุกคน เพราะดีกับคนในสังคมมากกว่า เราไม่มีทางรู้เลยว่าวันหนึ่งเราจะกลายเป็นคนที่มีความผิดปกติและถูกกำจัดออกจากสังคมเมื่อไหร่ เพราะเราสามารถทำผิดพลาดได้ในทุกเรื่อง ทุกมิติ คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าวันหนึ่งจะไม่เผลอทำผิดพลาด

ยอด : สองประโยคนี้คือวิวัฒนาการและการแก้ไขปัญหาในรูปแบบใหม่ ในเมื่อเราเคยใช้วิธีแรกก็ถึงคราวที่เราจะหันไปมองวิธีใหม่ๆ ถ้าเราไม่วิวัฒนาการเราก็คงเป็นเหมือนสมัยที่ผู้หญิงไม่สิทธิเรียนหนังสือ เป็นได้แค่แม่พลอยที่อยู่ในบ้าน แต่ตอนนี้เราเปลี่ยนไปแล้ว ถึงเวลาที่เราจะเปลี่ยนมาใช้วิธีที่สองซึ่งก็ไม่ใช่ว่าวิธีนี้จะเป็นคำตอบสุดท้าย ควรพึงระวังไว้ว่าคำตอบที่เราคิดว่าจะสามารถตอบได้ทุกอย่างก็อาจจะไม่จริง เพราะคำตอบใหม่ๆ ก็จะทยอยออกมา

จากข้อเขียน ‘ปฏิทินแห่งความหวัง จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน’ ของป๋วย อึ๊งภากรณ์ อันกล่าวถึงความปรารถนาที่อยากเห็นสวัสดิการที่ครอบคลุมตั้งแต่เกิดจนตาย ทั้งสองคิดว่าประโยคนี้รวมคนเสพยาเข้าไปด้วยไหม

บอล : เราไม่รู้ว่าอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์เจ้าของวาทะดังกล่าวจะยอมรับหรือไม่ เพราะในยุคสมัยนั้นแนวคิดนี้ใหม่มาก ขนาดเราเองก็ไม่ได้ยอมรับในตอนแรก ซึ่งในตอนนี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ยอมรับ เรามองว่านี่คือพัฒนาการ สังคมต้องพัฒนาขึ้น สิ่งใดที่เราชาชินก็ต้องเริ่มถูกหยิบมาตั้งคำถามในยุคสมัยนี้

ยอด : ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่นับ เราเห็นด้วยกับแนวคิดการรักษาชีวิตคนติดยาและก็ต้องขอบคุณอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ที่ได้ให้แนวคิดนี้ไว้เพื่อเป็นบันไดให้กับคนรุ่นใหม่ ตอนนี้เราตีความประโยคนี้ไปได้กว้างกว่าในยุคสมัยเดิม ขนาดเรื่องที่เราเห็นว่าไม่สามารถทำได้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนี้ก็ถูกหยิบมาพูดได้ทั่วไป ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เหมือนที่มนุษย์เราไม่กลับไปเดินสี่เท้า การเดินสี่เท้าเป็นสัญลักษณ์ของลิง อยู่มาวันหนึ่งก็เริ่มมีลิงที่ลุกขึ้นมาเดินสองเท้า นี่คือการพัฒนาที่ในปัจจุบันที่แม้เราจะแก่เราก็จะไม่กลับไปเดินสี่เท้าแต่ใช้ไม้เท้าแทน

 

ในอนาคตอยากให้การจัดการยาเสพติดในประเทศไทยเป็นไปอย่างไร

บอล : อยากให้ลองใช้วิธีใหม่ๆ ซึ่งไม่ง่าย แต่เมื่อรายการไหนพาปังถูกปล่อยออกไปเราค่อนข้างอัศจรรย์กับผลตอบรับ ตอนแรกเราคิดว่าจะต้องโดนโจมตี เพราะแนวคิดการแจกเข็มเป็นสิ่งที่ใหม่มากในสังคมไทย แต่กลายเป็นว่าสังคมพร้อมที่จะยอมรับ นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจและน่าดีใจ สังคมเราเปิดกว้างขึ้นเยอะมากดังนั้นเราควรลองวิธีใหม่ๆ ได้แล้ว

ยอด : ตอนเรามาทำไหนพาปังและเริ่มอธิบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป ผลที่ได้คือมีน้อยคนมากที่ไม่เข้าใจ จะมีก็แต่การออกมาตั้งคำถามว่าถ้าเกิดรับแนวคิดศูนย์เสพยาปลอดภัยมาจะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในไทยได้อย่างไร เขามองไปไกลกว่าที่เราเสนอ เขาอยากเห็นมากกว่านี้ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี เราในฐานะคนผลิตสื่อก็รู้สึกอิ่มเอมใจ (หัวเราะ)

ถ้านำวิธีแก้ปัญหายาเสพติดจาก The Secret Places มาใช้ ไทยจะได้ประโยชน์อย่างไร

ยอด : ถ้าใช้วิธีการเหมือนมาเลเซียประเทศไทยก็อาจจะเป็นเหมือนปีนัง สาธารณสุขของเราอาจจะดีขึ้น งบประมาณที่ใช้ก็จะน้อยลงกว่าการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ เช่น การให้คนมาบำบัด ทั้งนี้แนวคิดเรื่องสิทธิเสรีภาพของเดนมาร์กและเนเธอร์แลนด์ก็ควรหยิบมาปรับใช้ด้วย เรามองว่าการดูแลเรื่องสิทธิเสรีภาพของคนเป็นหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะถ้าเราอ้างว่าเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ การเห็นคุณค่าของมนุษย์ก็ยิ่งสำคัญ

 

มีเรื่องราวหลังกล้องที่อยากเล่าต่อนอกรายการไหม

บอล : ตอนไปเดนมาร์กเราถ่ายให้เห็นแค่รถตู้ที่เป็นศูนย์เสพปลอดภัยแบบเคลื่อนที่ ซึ่งวันต่อมาเราได้ไปดูศูนย์เสพปลอดภัยในอาคารที่สวยมากและเป็นห้องบริโภคยาเสพติด (Drug Consumption Rooms: DCRs) ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีการใช้สีสดใส สว่างไสว เขาอธิบายว่าการออกแบบนี้เป็นไปเพื่อปลุกความเป็นมนุษย์ แม้คุณจะเป็นคนเสพยา แต่โลกก็ไม่ได้หม่นหมอง ศูนย์บริการพร้อมดูแลคุณ และวันไหนที่พร้อมจะเลิกก็แค่มาบอกเรา นี่คือสิ่งที่เราไม่ได้เล่าในรายการ นอกจากนี้ ทั้งตัวอาคารและรถตู้สำหรับเสพยาจะตั้งอยู่รอบสถานีตำรวจ เพราะองค์กรที่ทำงานเรื่องยาเสพติดก็ทำงานร่วมกับตำรวจเลย

ยอด : เราไม่ได้ไปแค่ The Secret Places แต่ยังไปสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่สุดยอดอีกมากมาย ซึ่งเรายังไม่ได้เล่า เพราะอุปสรรคสำคัญคือขี้เกียจ (หัวเราะ) ยังไม่ได้ตัดคลิป ได้แต่ภาวนาให้ความขี้เกียจหายไป

 

ระหว่างถ่ายทำมีอุปสรรคอะไรไหม

บอล : เราไม่สามารถถ่ายห้องบริโภคยาเสพติดได้เพราะมีคนใช้บริการอยู่ เดนมาร์กปกป้องสิทธิคนเสพยามาก นี่เป็นอุปสรรคที่ดีซึ่งเราไม่ได้เล่าไปในรายการ

ยอด : อุปสรรคของเราคือบอลที่เรื่องมากและความขี้เกียจ (หัวเราะ)

เมื่อสถานที่ลับจับหัวใจ เราจะทำอย่างไรให้สถานที่ลับกลายเป็นที่ไม่ลับ

ยอด : นี่คือโจทย์ที่ยากมาก ตอนที่เราจะออกทีวีเรื่องเทศกาลหนังโป๊และยาเสพติดก็คิดว่าไม่สามารถออกได้ แต่เมื่อเรามองเป็นความท้าทายและคิดว่าประเด็นเหล่านี้จะต้องมีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่ เราจึงพยายามเล่าออกมาในเรื่องของสิทธิ ความน่ารักของดารา AV กับแฟนคลับ ถ้าเป็นเรื่องยาเสพติดก็จะพูดถึงมุมมองที่แตกต่างออกไป เพื่อทำให้เรื่องเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่พูดคุยกันได้และไม่ลับอีกต่อไป

 

ซีรีส์นี้ทำให้เราเติบโต เปิดโลก และปรับเปลี่ยนทัศนคติ เราได้เรียนรู้ว่า โลกใจดีกับเราและเราก็ใจดีกับโลกได้มากขึ้น 

 

การทำซีรีส์ชุดนี้ทำให้เติบโตและเข้าใจโลกในแง่ไหนบ้าง

ยอด : เยอะมาก ตอนเราไปเทศกาลหนังโป๊เราก็มองดารา AV เปลี่ยนไป เขาทำให้เรารู้ว่าหนังโป๊นั้นดีต่อผู้หญิง ทั้งยังได้เห็นสิทธิของผู้หญิงที่ดูหนังโป๊ ประเด็นยาเสพติดก็เช่นกัน

บอล : ผู้หญิงที่ไปเทศกาลหนังโป๊ไม่ได้ต่างอะไรกับการที่เราอยากไปดูฟุตบอลหรือศิลปินคนหนึ่ง เพียงแค่คุณไปแปะป้ายก่อนว่าถ้าพูดถึงเรื่องหนังโป๊ก็จะต้องเป็นพื้นที่ของคนหมกมุ่น แต่เมื่อเราไปถึงเทศกาลจริงๆ ผู้หญิงที่เขามาเข้าร่วมนั้นละมุนมาก โลกดูสวยงามขึ้นมาทันทีเมื่อเรามีพื้นที่ให้กับคนเหล่านี้และเขาก็กล้าที่จะพูดว่านี่คือเรื่องธรรมชาติ กลับเป็นเราเสียอีกที่อายแล้วกลัวว่าคนอื่นเขาจะมองเราอย่างไร การไปเทศกาลหนังโป๊ทำลายกรอบที่เรายึดติดมาโดยตลอดออกไป แท้จริงแล้วการมีชีวิตอยู่ของเราล้วนเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดมากมาย เช่น เราจะบอกคนอื่นว่าดูหนังโป๊ไม่ได้ โดยเฉพาะผู้หญิงจะถูกกดทับมาก เมื่อกรอบเหล่านี้ถูกทำลายเราจึงเข้าใจว่าตัวเราไม่ได้แปลกประหลาด

ซีรีส์นี้ทำให้เราเติบโต เปิดโลก และปรับเปลี่ยนทัศนคติ เราได้เรียนรู้ว่า โลกใจดีกับเราและเราก็ใจดีกับโลกได้มากขึ้น

การที่เรารู้สึกแปลกหรือแตกต่างจากคนอื่นเป็นการทำร้ายตัวเรา เพราะเราถูกกรอบให้คิดว่าเราต้องเหมือนคนอื่น มนุษย์ต้องเหมือนกันซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เพราะแนวคิดเรื่องคนเท่ากันนี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกว่าโลกนี้ใจดีกับเราจังเลย และเราก็พร้อมจะใจดีกับคนอื่นที่แตกต่างออกไป นี่คือสาเหตุว่าทำไมไหนพาปังอยากเดินทางไปเล่าเรื่องในประเด็นที่คนอื่นไม่ค่อยพูด เรารู้สึกว่ากรอบความคิดบางอย่างคือกำแพงที่ทำให้เราเจ็บปวดกับการมีชีวิตโดยใช่เหตุ และเมื่อทำลายกรอบที่กดทับเหล่านี้เราก็คงจะมีความสุขกับชีวิต มีพลังไปสร้างสรรค์สิ่งใหม่แก่ตนเองและโลกใบนี้

 

สปอยล์ตอนต่อไปได้ไหม

ยอด : ตอนนี้มีเรื่อง sex มีเรื่องยาเสพติด ประเด็นต่อไปอยากเป็นเรื่องบ่อน (หัวเราะ) The Secret Places ตอนต่อไปจะต้องเป็นสถานที่ที่ทำให้หัวใจเราเต้น

บอล : และมีตั๋วโปรโมชั่น (หัวเราะ)

 

คนดูจะได้อะไรจากซีรีส์ชุดนี้

บอล : ทำให้รู้ว่าโลกยังใจดีกับเราและเรายังสามารถใจดีกับโลกได้ ถ้าใครยังไม่เข้าใจก็ไปดูคลิปและกดติดตาม กดครั้งเดียวพอนะอย่ากดสองครั้ง (หัวเราะ)

ยอด : ทำให้รู้ว่ามีประตูอยู่ ตอนแรกเราอาจมองเห็นเป็นทางตันแต่เมื่อรู้ว่ามีประตูแล้วลองแง้มดู โลกใบใหม่จะเปิดออกมา

 

คุณไม่จำเป็นต้องดูก็ได้ เพียงแต่เราจะชี้ให้เห็นว่ามีประตู เมื่อคุณรู้ว่ามีประตูคุณก็รู้ว่ามีโลกใบใหม่อยู่แม้จะไม่ได้หันไปมอง.

 

ติดตามรายการ ‘ไหนพาปัง’ ร่วมเดินทางไปกับบอลและยอดได้ที่

Youtube : https://www.youtube.com/@moviepapai
Facebook : https://www.facebook.com/MoviePaPai