เมื่อเอ่ยถึงจักรวรรดิเปอร์เซีย เป็นที่ทราบกันดีว่า นี่คือแหล่งอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ของโลก
ต้นกำเนิดของศิลปะและวิทยาการหลายๆ อย่าง ที่เป็นมรดกตกทอดมาให้เราได้ใช้ประโยชน์กันถึงทุกวันนี้
ไม่ว่าจะเป็นด้านสถาปัตยกรรม ภาษา ปรัชญา การแพทย์ การชลประทาน สิ่งทอ ฯลฯ
เหล่านี้คือสิ่งที่เราคุ้นเคยกันดีในแบบเรียนประวัติศาสตร์
แต่มีบางเรื่องที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ทราบคือ สถานที่ผ่อนคลาย อันเป็นที่นิยมและแพร่หลายไปทั่วโลกอย่าง ‘สปา’ ก็เชื่อกันว่า น่าจะมีต้นกำเนิดมาจากวัฒนธรรมการอาบน้ำใน Bathhouse ของคนในแถบเปอร์เซียเช่นกัน
หากใครเคยมีโอกาสไปเยือนประเทศอิหร่าน ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิเปอร์เซียในอดีต คงจะทราบดีว่าที่นั่นมี Bathhouse หรือ Hammam (อ่านว่า ฮัม-มัม ภาษาท้องถิ่น) กระจายตัวอยู่แทบจะทุกเมือง บ้างอยู่ในสุเหร่า บ้างอยู่ในตลาด หรือบางแห่งก็อยู่ในที่สาธารณะใกล้อาคารบ้านเรือน
โดยส่วนใหญ่ไม่เปิดให้บริการแล้ว แต่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยว
จากหลักฐานทางโบราณคดีพบว่าเปอร์เซียมี Bathhouse มาตั้งแต่ยุคก่อนศาสนาอิสลาม (Pre-Isalamic) หรือถ้านับเป็นตัวเลข อาจจะเกิน 2,000 ปี (เท่าที่มีหลักฐาน)
แต่มาได้รับความนิยมและแพร่หลายในช่วงยุคกลางของศาสนาอิสลาม หรือราวๆ ศตวรรษที่ 3 เป็นต้นมา ด้วยเหตุผลทางศาสนา ที่ชาวมุสลิมต้องอาบน้ำให้สะอาดก่อนมาละหมาดที่มัสยิด
มีบันทึกไว้ว่า เฉพาะในประเทศอิหร่าน เคยมี Bathhouse มากกว่า 10,000 แห่ง ทั้งแบบส่วนตัวของราชวงศ์และพ่อค้าที่ร่ำรวย และแบบสาธารณะที่ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้
ฉะนั้น ในเมื่อมุสลิมทุกคนต้องมาอาบน้ำ Bathhouse จึงกลายเป็นแหล่งพบปะของคนทุกอาชีพ
นอกจากอาบน้ำ ที่นี่จึงเป็นทั้งแหล่งเจรจาการค้า ติวหนังสือ พบปะพูดคุยหรือเมาท์กันในหมู่เพื่อนฝูง เป็นที่สวดมนต์ เป็นที่พักผ่อนจากความเมื่อยล้า ไปจนถึงการเสริมหล่อเสริมสวย รักษาพยาบาล กระทั่งคลอดบุตร
ในยุคหลังศตวรรษที่ 9 Bathhouse ได้รับความนิยมในหมู่ชาวเปอร์เซีย และพ่อค้ากองคาราวานเป็นอย่างมาก มีการให้บริการแบบครบวงจร
โดยภายใน Bathhouse จะแบ่งสัดส่วนการใช้งานคล้ายบรรดาสปาในปัจจุบัน มีการแยกชาย หญิง
ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งาน โดยทั่วไปต้องประกอบด้วย 3 ส่วนคือ
ส่วนแรก เป็นส่วนของการเตรียมร่างกายให้พร้อม เมื่อเดินเข้ามาภายในจะพบกับห้องล็อคเกอร์สำหรับถอดเสื้อผ้าและเก็บของเป็นที่แรก ก่อนจะเข้าไปสู่ garmkhaneh หรือห้องอบไอน้ำที่เริ่มปรับอุณหภูมิร่างกาย
ส่วนที่สอง จะเข้าสู่การให้บริการโดยพนักงานของ Bathhouse โดยจะให้ลูกค้านอนบนผ้าที่ปูบนหินอ่อนร้อนแล้วนวดผ่อนคลาย ในส่วนนี้ยังมีบริการย้อมผม ตัดผม โกนหนวด และตัดเล็บให้ด้วย
ส่วนที่สาม คือ khazineh หรือห้องอาบน้ำหลัก ที่จะอยู่ใจกลางของ Bathhouse เสมอ ประกอบไปด้วยบ่อน้ำร้อน น้ำอุ่น น้ำเย็น ให้เลือกอาบกันตามอัธยาศัย
เสร็จแล้วใครจะนอนหลับ หรือนั่งพูดคุยกันต่อก็ทำได้ตามสบาย
ก่อนออกจาก Bathhouse ลูกค้าจะได้รับผ้าเช็ดตัวสีขาวและบริการนวดครั้งสุดท้ายเป็นเวลา 15 นาที ก่อนจะใส่เสื้อผ้าและกลับออกไป
หน้า Bathhouse มักจะมีร้านน้ำผลไม้ขาย เพื่อสร้างความสดชื่นก่อนกลับบ้าน หรือเดินทางต่อ
โดยชาวเปอร์เซียเชื่อว่าการมา Bathhouse อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง จะช่วยให้มีสุขภาพที่ดี
ในด้านสถาปัตยกรรม ขึ้นชื่อว่าเปอร์เซีย ไม่มีคำว่าน้อย
จักรวรรดิที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งอารยธรรมพันปี รังสรรค์งานศิลปะและสถาปนิกไว้แบบเหนือชั้น
ทุกมุมมองล้วนสมมาตร และเต็มไปด้วยลวดลายอันสวยงาม ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาอิสลาม โดยรายละเอียดของ Bathhouse แต่ละแห่ง จะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
ปัจจุบัน หากใครอยากลองใช้บริการ Bathhouse ของชาวเปอร์เซีย ที่ประเทศอิหร่านยังพอมีเปิดให้บริการอยู่บ้าง ส่วนใหญ่มักจะเป็นส่วนหนึ่งของ Sport Complex ที่สร้างขึ้นใหม่ แต่ยังพยายามคงบรรยากาศเก่าๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส
แต่อีกแห่งที่ยังคงมี Bathhouse ลักษณะนี้ให้บริการอย่างแพร่หลาย คือประเทศตุรกี
เราอาจจะคุ้นเคยกันในชื่อ Terkish Bath ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน โดยมีศาสนาอิสลามเป็นตัวขับเคลื่อนเช่นเดียวกับอิหร่านหรือเปอร์เซีย การให้บริการก็เหมือนกันทุกอย่าง โดยยุโรปเพิ่งจะรับเอาวัฒนธรรมโรงอาบน้ำสาธารณะในลักษณะนี้ไปใช้ในช่วงศตวรรษที่ 19 เท่านั้น โดยบุคคลแรกที่นำไปเผยแพร่คือ David Urquhart ฑูตชาวสก๊อตแลนด์ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในตุรกีช่วงปี 1980
หลังจากนั้น การให้บริการนวด ทำความสะอาด และบำบัดร่างกายด้วยน้ำ ก็แพร่กระจายไปทั่วยุโรป จนได้รับความนิยมไปทั่วโลก หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ‘สปา’
อ้างอิง :
- Encyclopaedia Iranica. BATHHOUSES. http://www.iranicaonline.org/articles/bathhouses
- 1stquest. Experience an Authentic Iranian Bathhouse at Qazi Persian Bath in Isfahan. http://bit.ly/2Py14wj
- Research Gate. The Role of Persian Historical Bath in City and Urban Life. http://bit.ly/2Ns1iCv
- PANDO TRIP. Sultan Amir Ahmad Bathhouse – a Gorgeous Ancient Spa in Iran. http://bit.ly/2PtW104
- Wikipedia. Turkish bath. https://en.wikipedia.org/wiki/Turkish_bath
FACTBOX
- ชื่อ ‘สปา’ เชื่อกันว่ามาจากชื่อเมือง SPA ในเบลเยี่ยม มีชื่อเสียงด้านการอาบน้ำแร่ บรรดาทหารหรือขุนนางที่กลับจากทำศึกก็มักจะแวะผ่อนคลายที่เมืองนี้ แต่วิธีการให้บริการในสปานั้นเชื่อว่าน่าจะได้รับอิทธิพลมาจาก Bathhouse ของชาวเปอร์เซียและออตโตมันมากกว่า