“ไม่รู้ว่าอาการของแม่จะไปจนถึงสเตจไหน
แต่ตอนนี้ผมสนุกและมีความสุขกับแม่ทุกวัน วันไหนที่เป็นวันว่างจะให้แม่เต็มๆ”
นินทร์ นรินทรกุล ณ อยุธยา
ช่างภาพ
“สิ่งที่ได้เรียนรู้ในปีนี้คือการแบ่งเวลา ตั้งแต่แม่เริ่มป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ผมก็ทุ่มเทเวลาให้แม่เต็มที่ ด้วยความที่ผมเป็นช่างภาพ ช่วงโควิดเลยว่าง ไม่มีงาน ผมเลยถ่ายรูปแม่แต่งตัวสนุกๆ ทุกวัน จนเกิดเป็น IG: 70YOUNGTEAW ที่ทำให้หลายๆ คนเริ่มสนใจ”
“แต่ปีนี้เป็นปีที่เริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง ทำให้ต้องแบ่งเวลาชีวิตใหม่หมด ทุกเช้าพอหมาเห่าปลุกตอน 6 โมงครึ่ง ต้องเด้งตัวตื่นขึ้นมาทันที 7 โมงเช้าผมกับแม่จะเดินไปกินข้าวที่ร้านข้าวแกงหน้าปากซอยบ้าน จากนั้นก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันถึงบ่าย ชวนดูทีวี ชวนคุย ไม่ให้แม่นอนกลางวัน และเนื่องจากตอนนี้แม่เริ่มไม่ค่อยอยากกินข้าวเองแล้ว ผมเลยต้องบังคับให้เขากินวันละ 2 มื้อคือ เช้ากับเที่ยง เพื่อที่ตอนเย็นเราจะได้มีเวลาไปว่ายน้ำหรือทำธุระส่วนตัวบ้าง”
“ซึ่งการที่เราจะว่างได้อย่างเต็มที่ในตอนเย็นก็ต้องให้แม่ได้ออกกำลังกายเต็มที่ระหว่างวันเสียก่อน ด้วยการให้แม่เดินเข้าออกในซอยบ้านท่ามกลางแดดจัดๆ ในตอนเช้าและเที่ยง เพื่อให้สารเคมีในสมองได้ทำงาน ตอนเย็นเขาจะอยากพักผ่อนโดยอัตโนมัติ เราก็ปล่อยให้เขาอยู่บ้านคนเดียวได้”
“วันไหนที่ผมต้องออกไปทำงานทั้งวันก็จะวานคนแถวบ้านซื้อข้าวมาให้แม่ และในวันทำงานผมจะไม่นึกถึงแม่แล้ว โฟกัสที่งานอย่างเดียว ไม่เอามาปนกัน ไม่งั้นทำงานไม่ได้ แม้แต่กล้องวงจรปิดผมก็ไม่ดู”
“ต่อไปไม่รู้ว่าอาการของแม่จะไปจนถึงสเตจไหน แต่ตอนนี้ผมสนุกและมีความสุขกับแม่ทุกวัน วันไหนที่เป็นวันว่างจะให้แม่เต็มๆ”
“การที่แม่ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม ในเมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องหาทางแก้ให้ดีที่สุด เช่น การที่ผมให้แม่เดินกลางแดดเพื่อให้สารเคมีในสมองทำงานสมดุล เราจะได้ไม่ต้องมีชีวิตที่ผูกกับแม่ทั้งวัน เราก็มีเวลาของเรา ซึ่งมันดีต่อภาพรวม เมื่อผมจัดการเรื่องนี้ได้ลงตัว เราทำทุกอย่างได้ดีหมดแล้ว งานก็ไม่ยากเท่าแม่แล้ว ในเมื่อเราสามารถจัดการเรื่องประสาทเสียได้ขนาดนี้ แสดงว่าเรื่องงานคือสบายๆ แล้ว”
“ปีหน้าผมยังอยากทำทุกอย่างให้เหมือนปีนี้ เพราะปีนี้ถือเป็นปีที่ดีมากๆ เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาผมเพิ่งลงแข่งว่ายน้ำแบบ Open Water 10 km ที่จังหวัดกระบี่ แม้จะทำไม่สำเร็จ แต่ผมก็ยังดีใจที่ได้ทำ ผมเริ่มสมัครฟิตเนสตอนเดือนพฤษภาคมเพื่อซ้อมว่ายน้ำ เพราะมีเป้าหมายคือการแข่งขันในเดือนธันวาคม สมัครไปทั้งที่ในใจก็คิดว่าจะได้มาฟิตเนสไหม ไหนจะต้องทำงาน ดูแลแม่ เพราะวันที่เราไม่ได้อยู่กับแม่เลยก็จะรู้สึกผิดในวันรุ่งขึ้น พอมีเวลาว่างเลยอยากให้แม่เต็มเวลา ที่นี้พอสมัครฟิตเนสไปแล้วก็เลยต้องค่อยๆ แบ่งเวลา ดังนั้น ปีนี้คือเมจิกของตัวเองที่ทำได้ ไม่รู้ปีหน้าจะทำได้ไหม เลยอยากก๊อปปี้ปีนี้”
‘2022 Life Lessons ปีนี้สอนให้รู้ว่า…’ เป็นซีรีส์สัมภาษณ์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วยความตั้งใจของ becommon ที่อยากส่งต่อ 16 บทเรียนชีวิตตลอดปีของ 16 บุคคลน่าสนใจจากหลากหลายวัยและวงการ ติดตามอ่านได้ ที่นี่