life

เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ไม่มีใครเก่งมากไปกว่ากัน แต่ทำไมคำแนะนำจาก ‘คนโสด’ มักช่วยคลี่คลาย ‘ปัญหาหัวใจ’ ให้ใครต่อใครได้ดีเหลือเชื่อ

หากที่มาของคำแนะนำที่ดีเกิดขึ้นได้จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ ที่เจ้าตัวสั่งสมมา ‘ความโสด’ กับ ‘ความรักฉันแฟน’ ย่อมเป็นสองสิ่งคู่ขนานที่ไม่มีวันบรรจบกัน

ถ้าถือคติทำนองนี้แล้ว คนโสดที่ชีวิตไม่เคยมีใครจะให้คำปรึกษาเรื่องความรักกับคนมีแฟนได้อย่างไร? นี่อาจเป็นคำถามที่ชวนให้ใครหลายคนคิดสงสัยถึงความไม่สมเหตุสมผล

ยิ่งคนที่โสดสนิทมาทั้งชีวิต ตั้งแต่จำความได้ ก็รู้ตัวว่าโสดมาตลอด ไม่มีแม้แต่คนคุยด้วยซ้ำ เท่ากับประสบการณ์มีแฟนเป็นศูนย์ ถึงอย่างนั้น ความโสดกลับไม่ใช่อุปสรรคที่คนมีแฟนเป็นตัวเป็นตน จะหยิบยกมาตั้งเป็นเกณฑ์เอาไว้ใช้ตัดสินหรือขีดเส้นแบ่ง ‘เพื่อนโสด’ ว่าไม่มีทางเข้าถึงและเข้าใจความรักของคนอื่นได้

ในความเป็นจริง ‘สถานะโสด’ ไม่ว่าจะของเพื่อนหรือของใคร ล้วนแล้วแต่ไม่อาจชี้ชัดประสบการณ์และมุมมองต่อความรักของเขาหรือเธอผู้นั้นได้เสมอไปว่า คงมีไม่เท่าคนที่เคยมีแฟนหรือกำลังคบหาดูใจใครสักคนอยู่ เพราะสถานะโสดไม่เท่ากับไม่เคยรักใคร และไม่ได้หมายความว่ารักไม่เป็น แล้วความรักก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่คำว่า ‘แฟน’ หรือ ‘คู่ชีวิต’ ยังมีความสัมพันธ์อีกหลายรูปแบบที่พร้อมโอบกอดทุกคน (ไม่เฉพาะคนโสด) ให้รู้จักและสัมผัสได้ถึงความรักและความปรารถนาดีที่คนหนึ่งเต็มใจมอบให้อีกคนหนึ่ง ทั้งความผูกพันจากคนในครอบครัว และมิตรภาพจากเพื่อนหรือคนใกล้ชิด

มากไปกว่านั้น สาเหตุของความโสดเองก็มีเหตุผลร้อยแปด

บางคนครองสถานะโสดด้วยความสบายใจว่า อยู่ตัวคนเดียวแล้วใช้ชีวิตได้คล่องตัวกว่า เลยไม่เคยรู้สึกอยากมีใคร โดยเฉพาะคนรัก

บางคนใช้สถานะโสดเป็นระยะพักใจ หวังให้เวลาช่วยเยียวยาความรู้สึกแย่ๆ เพราะยังเข็ดหลาบและเหน็ดเหนื่อยกับความรักห่วยๆ ก่อนหน้านี้

บางคนโสดเพราะยังไม่เจอคนที่ใช่ ไม่ใช่ว่าไม่อยากมีใคร แต่หาเท่าไรก็ยังไม่เจอคนที่ตรงสเปก

บางคนเลือกเป็นโสดด้วยความเต็มใจ เพราะกำลังมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นในชีวิตมากกว่าความรัก

และบางคนก็โสดเพราะไม่มีใครจริงๆ กลายเป็นคนเคยชินกับการอยู่คนเดียว รู้สึกเหงาบ้างเป็นครั้งคราวและโหยหารักอยู่ลึกๆ ในใจ จึงไม่คิดปิดกั้นตัวเอง พร้อมเริ่มต้นเรียนรู้ความสัมพันธ์และสละสถานะโสดได้ทุกเมื่อ หากมีคนเข้ามาทักทาย

ไม่ว่าจะโสดด้วยเหตุผลใด แต่สิ่งสำคัญที่คนโสดมีมากกว่าคนมีคู่ คือ ‘อิสระ’ เพราะปราศจากพันธะ การผูกมัด หรือสัญญาใจใดๆ ทำให้ไม่ต้องคอยกังวลว่าความสัมพันธ์กับคนรักควรจะต้องพัฒนาไปในทิศทางไหน แต่ในความเป็นอิสระที่ไม่ขึ้นอยู่กับใครนอกจากใจของตัวเอง อีกด้านหนึ่งกลับทำให้คนโสดรู้สึกโดดเดี่ยว ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?

หลังจากทุ่มเทศึกษาความโสดและความสัมพันธ์ของคนโสดมาเป็นระยะเวลามากกว่าหนึ่งทศวรรษ เบลลา เดเพาโล (Bella dePaulo) นักจิตวิทยาสังคมชาวอเมริกัน ก็พบคำตอบที่น่าสนใจ

ในบรรดาผลการศึกษาที่เปรียบเทียบชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างคนแต่งงานแล้วหรือมีคู่ชีวิตอยู่ด้วยกันกับคนโสด ทั้งหมดมีข้อสรุปตรงกันว่า คนโสดมีเพื่อน มีสังคม และเป็นคนกว้างขวางกว่ามาก ไม่ใช่แค่ในแง่ปริมาณ แต่ยังเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ เพราะคนโสดรู้อยู่แก่ใจว่า ในเมื่อไม่ได้อยากมีคู่ชีวิตตั้งแต่แรก และไม่เคยรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจหากต้องอยู่ตัวคนเดียวไปตลอด จึงจำเป็นต้องออกแบบและวางแผนการใช้ชีวิตทุกๆ ด้านเสียใหม่

คนโสดส่วนมากมักจะสานสัมพันธ์กับคนรอบข้างในทุกๆ วงสังคมเอาไว้ กลายเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นง่ายและมีมนุษยสัมพันธ์ดี ถือเป็นวิธีพิสูจน์ให้ทุกคนรู้ว่า ‘ครองโสด’ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องตัดขาดความสัมพันธ์จากคนอื่นๆ แล้ว ‘ความสันโดษ’ แม้จะทำให้ดูเป็นคนโดดเดี่ยวไปบ้าง แต่นั่นไม่ใช่และไม่ถือว่าเป็นปัญหารบกวนใจ

ส่วนหนึ่งเพื่อหักล้างความคิดตีกรอบของสังคมและผู้คนรอบตัว ซึ่งเป็นความคาดหวังล้าหลังที่บอกว่า ‘ชีวิตสมบูรณ์แบบ คือชีวิตที่ต้องมีใครสักคนคอยอยู่เคียงข้าง’ เพราะชีวิตไม่มีสูตรสำเร็จ แล้วเส้นทางการใช้ชีวิตก็มีให้เลือกมากมาย จึงไม่ควรผูกขาดคุณค่าของการมีชีวิตที่ดีกับคู่รักหรือคู่ชีวิตเท่านั้น อีกส่วนก็เพื่อสร้างคุณค่าให้ตัวเองภาคภูมิใจว่า ‘ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน’ ได้

หากสังเกตเพื่อนโสดหรือคนโสดรอบตัว อาจเห็นได้ชัดเจนเลยว่า เป็นคนพอใจในชีวิต มองโลกด้วยความเข้าใจ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เมื่ออยู่ใกล้ๆ จะรู้สึกได้พลังงานบวก สำคัญที่สุดคือ เป็นผู้รับฟังที่ดี และคอยให้คำแนะนำได้ทุกเรื่อง ด้วยเหตุนี้เอง คนโสดมักจะได้รับตำแหน่งเป็น ‘ที่ปรึกษา’ จากเพื่อนๆ

อาจเรียกว่าเป็นผลพลอยได้หรือข้อดีของการเป็นคนกว้างขวางและรู้จักรักษาความสัมพันธ์ก็คงไม่เกินจริงนัก เนื่องจากคนโสดมีโอกาสพบเจอความสัมพันธ์ต่างรูปแบบจากผู้คนที่หลากหลาย จนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องความสัมพันธ์ถึงขั้นมองขาด ในกรณีนี้ ต้องนับรวมคนโสดประเภทที่เคยมีคนรักร่วมเข้าไปด้วย เพราะประสบการณ์อาบน้ำร้อนมาก่อน ย่อมให้คำแนะนำได้ดีไม่แพ้กัน

เมื่อถึงคราวต้องให้คำแนะนำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับปัญหารัก คนโสดจะวางตัวในฐานะคนนอกที่มองเข้าไปในปัญหานั้น แล้วค่อยๆ ทำความเข้าใจต้นสายปลายเหตุ เพื่อช่วยคิดหาทางออกที่เหมาะสม โดยไม่มีอารมณ์และความรู้สึกเข้ามาฉุดรั้งให้จมปลักอยู่ในวังวนของปัญหา ผลลัพธ์ที่ได้ก็มักจะเป็นทางออกที่คนมีปัญหารักคิดไม่ออกหรือคิดไม่ถึง

สรุปแล้ว สาเหตุที่คนโสดหรือคนไม่เคยมีแฟนให้คำแนะนำเรื่องรักได้ดี ก็เพราะ

(1) คนโสดสนิทจะรักษาทุกความสัมพันธ์กับคนรอบข้างไว้ เพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกโดดเดี่ยว ใครมีปัญหาอะไรมา ก็ยินดีตั้งใจให้คำแนะนำ เพื่อนโสดจึงกลายเป็นคนแรกๆ ที่ถูกนึกถึง เมื่อใครก็ตามมีปัญหารัก เพราะคนโสดอยู่เคียงข้างเพื่อนทุกคนตลอด

(2) คนโสดเพราะเจ็บปวดมาเยอะจะให้คำแนะนำที่อ้างอิงจากประสบการณ์จริงของตัวเอง เพื่อนที่มีปัญหาแบบเดียวกันจึงตั้งใจรับฟัง

(3) คนโสดคือคนนอกที่มองปัญหาความสัมพันธ์ของเพื่อนด้วยความเป็นเหตุเป็นผล โดยไม่มีความรู้สึกหรืออารมณ์เข้ามาปะปน พร้อมเสนอทางออกที่เป็นประโยชน์ได้

ไม่ว่าจะเหตุผลกลุ่มไหน คนโสดมักจะเปิดกว้างรับฟังปัญหา และพยายามให้คำแนะนำตามแต่ประสบการณ์และความรู้ของตัวเอง อย่างน้อยเพื่อทำให้เพื่อนที่กำลังมีปัญหารัก ไม่รู้สึกว่าต้องรับมืออยู่คนเดียว และหวังใจว่าจะช่วยแก้ไขและคลี่คลายปัญหาได้ในท้ายที่สุด

เอาเป็นว่า หากรักมีปัญหา ให้ลองทักหาเพื่อนโสด

 

อ้างอิง

  • American Psychological Association. Psychologist reveals science behind a fulfilling single life: Single people have richer social lives, more psychological growth than married people. https://bit.ly/3TB57qi
  • Bella DePaulo. The Social Lives of Single People. https://bit.ly/3TBV2tm
  • Sara Benincasa. Psychologists say single people are more fulfilled. I’m getting to understand why. https://bit.ly/3RtApNX