life

แป้ก แป้ก แป้ก แป้ก แป้ก แป้ก แป้ก แป้ก…

ท่ามกลางความเงียบสงัดในเวลากลางคืน หลายคนกลับได้ยินเสียงแปลกๆ ดังขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย คล้ายลูกแก้วหล่นกระทบฝ้า เพดาน หรือพื้นห้องชั้นบนหลายลูก กลายเป็นเสียงดังทั่วทั้งห้องอยู่ชั่วครู่ แล้วค่อยๆ เงียบหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

โดยเฉพาะคนที่พักอาศัยในอาคารสูง ทั้งคอนโดมิเนียม แฟลต อะพาร์ตเมนต์ และตึกแถว มักจะได้ยินเสียงลูกแก้วตกบ่อยกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่า คนที่อยู่บ้านเดี่ยวจะไม่มีโอกาสได้ยินเสียงลักษณะนี้เลย อาจได้ยินบ้างเป็นครั้งคราว

เมื่อหาต้นตอที่แน่ชัดของเสียงไม่ได้ คนส่วนใหญ่อาจคิดว่าคงเป็นเสียงรบกวนจากห้องข้างๆ หรือห้องข้างบน แต่ถ้าหากอยู่ห้องหรือบ้านตามลำพังยิ่งแล้วใหญ่ เพราะชวนให้สงสัยปนระแวงว่าอาจเป็นเสียงประหลาดยามค่ำคืนที่เกิดจากอำนาจไสยศาสตร์ ผีสาง สิ่งลึกลับ หรือเกี่ยวกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ทั้งที่ในความเป็นจริง วิทยาศาสตร์มีคำอธิบาย

และเพื่อให้รู้ที่มาของเสียงลูกแก้วหล่น เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจหลักการขยายตัวและหดตัวของโครงสร้างเหล็กภายในตึกเสียก่อน

โดยทั่วไป สสารหรือวัตถุทุกชนิดที่เป็นของแข็ง (ในที่นี้คือเหล็ก) ประกอบด้วยอะตอมของธาตุจำนวนมาก แม้ว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาแต่ทุกอะตอมยังคงยึดติดกันเป็นโครงสร้างแน่นหนาและแข็งแรง จนกระทั่งเหล็กได้รับความร้อนจากแสงแดดตลอดเวลากลางวัน ความร้อนจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานที่กระตุ้นให้ขอบเขตการเคลื่อนไหวของอะตอมเพิ่มขึ้น ระยะห่างระหว่างอะตอมจึงยืดห่าง ทำให้เหล็กขยายตัวออกตาม

ในทางตรงกันข้าม หากเหล็กไม่ได้รับความร้อนใดๆ อีกต่อไป ขอบเขตการเคลื่อนไหวของอะตอมก็จะกลับเข้าสู่สภาพปกติ คือชิดติดกันเหมือนเดิม เป็นผลทำให้เหล็กคืนตัว

ความร้อนและระดับอุณหภูมิที่แวดล้อมรอบอาคาร จึงเป็นตัวการสำคัญที่ส่งผลให้เหล็กขยายและหดตัวได้ การเปลี่ยนแปลงของเหล็กตรงจุดนี้เอง ทำให้เกิดเสียงสะท้อนไปมาในโครงสร้างอาคาร และต้องผ่านตัวกลางอื่นๆ ที่บิดเบือนให้เสียงเปลี่ยนไป จนกลายมาเป็น เสียงคล้ายลูกแก้วหล่น หรือ Marble Dropping Noises ให้เราได้ยิน

แอนดี้ พิเอคเซค (Andy Piacsek) นักฟิสิกส์ประจำ Central Washington University และสมาชิกสมาคมสวนศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (Acoustical Society of America) ซึ่งสวนศาสตร์ (อ่านว่า สะ-วะ-นะ-สาด) เป็นสาขาหนึ่งของฟิสิกส์ที่ศึกษาคุณสมบัติของคลื่นเสียงเมื่อเคลื่อนผ่านสสาร ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าเสียงเกิดขึ้นจุดเดียว แต่กระจายและส่งผ่านไปทั่วอาคาร ‘เสียงต้นฉบับ’ กับ ‘เสียงที่ได้ยิน’ จึงไม่มีทางเหมือนกัน

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เราได้ยินเสียงนี้แค่เวลากลางคืนเท่านั้นเป็นเพราะว่าไม่มีแสงแดด เมื่ออุณหภูมิโดยรวมลดต่ำลง เหล็กจะค่อยๆ คายความร้อนที่รับมาตอนกลางวัน ทำให้เกิดเสียงดังเป็นระยะ ในแต่ละคืนจึงอาจได้ยินเสียงลูกแก้วหล่นหลายครั้ง ประกอบกับกลางคืนเป็นช่วงที่เงียบมากกว่ากลางวัน ทำให้ได้ยินเสียงชัดเจน แม้ความดังของเสียงจะเบามากๆ ซึ่งอายุของตึกทั้งความเก่าแก่และความใหม่ ก็ไม่มีใดๆ ผลต่อความดังเบาของเสียง

ในที่สุด วิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์ได้ว่า เสียงลูกแก้วหล่น คือเสียงปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกสิ่งปลูกสร้างทั่วโลก โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เสาและคานคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นโครงสร้างหลักทั้งตัวอาคาร เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างและไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ กับผู้อยู่อาศัย เว้นแต่จะสร้างความรำคาญหรือรบกวนใจขณะเข้านอน

 

อ้างอิง

  • Marcus Mckean. Expansion and Contraction : Why does heat and cold make things expand and contract ? Also why do some metals expand more than others?. https://bit.ly/3qnUD1E
  • Sarah Harvey. The Marble Upstairs. https://bit.ly/3mZvKal