ขี้เกียจลุกจากที่นอนตอนเช้า เพลียตลอดวัน ตกบ่ายอยากจะงีบหลับเสียให้ได้ แถมยังติดของหวานชนิดห้ามขาด เติมหวานเข้าร่างเมื่อไรค่อยมีเรี่ยวมีแรง
เผลอๆ ยังเกิดอาการเวียนหัวทุกทีที่เปลี่ยนท่านั่งท่ายืน แถมยังออกกำลังกายเท่าไรก็ไม่ผอมเสียที
เชื่อว่าหลายคนกำลังพบเจออาการเหล่านี้ และคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ทว่านี่เป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายที่กำลังฟ้องว่า ต่อมหมวกไตของคุณกำลังอ่อนแอ
ต่อมหมวกไตมีไว้ทำไม
ต่อมหมวกไต (Adrenal Gland) เป็นอวัยวะรูปสามเหลี่ยมเล็กๆ ที่หุ้มอยู่บริเวณขั้วไตทั้งสองข้าง มีหน้าที่สร้างฮอร์โมนสำคัญอย่างน้อย 2 ชนิดแก่ร่างกาย ได้แก่
- ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) เป็นฮอร์โมนความเครียดตัวหลักของร่างกาย มักผลิตขึ้นเป็นปริมาณมากในตอนเช้า เพื่อให้ร่างกายตื่นตัวพร้อมทำกิจกรรมต่างๆ
- ฮอร์โมนดีเอชอีเอ (DHEA) เป็นฮอร์โมนเพศชนิดหนึ่ง ที่เป็นฮอร์โมนตั้งต้นของทั้งฮอร์โมนเพศหญิงและเพศชาย ช่วยกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมัน กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายรู้สึกกระฉับกระเฉง ชะลอริ้วรอยก่อนวัย กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ และเป็นฮอร์โมนต้านเครียดที่ช่วยต้านฤทธิ์ของคอร์ติซอลเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะเครียด
เมื่อไรต่อมหมวกไตถึงจะเริ่มล้า
ภาวะต่อมหมวกไตล้า (Adrenal Fatigue) เป็นอาการผิดปกติของร่างกายที่มีความเครียดเรื้อรังเป็นตัวกระตุ้น จนทำให้ร่างกายต้องผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาเพื่อจัดการความเครียด ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมและแก่เร็ว
วิถีชีวิตที่เร่งรีบในเมืองใหญ่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดภาวะต่อมหมวกไตล้าได้เร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนที่ชอบความตื่นเต้นท้าทายในการเรียนหรือการทำงาน ชอบการแข่งขัน หรือเร่งทำงานให้เสร็จทันกำหนด จนถึงขั้นเสพติดความเครียด (Adrenal Addict) ที่มักไม่รู้ตัว เพราะร่างกายมีความทนทานสูงต่อความเครียดในแต่ละวัน
นอกจากความเครียดทางใจแล้ว พฤติกรรมต่างๆ ที่ทำให้ร่างกายทำงานหนักเกินไปเช่น นอนดึก ออกกำลังกายหนักเกินไป ไม่กินข้าวเช้าเป็นประจำ กินของหวานหรือน้ำตาลมากเกินไป ฯลฯ ก็ทำให้เกิดความเครียดสะสมจนเป็นสาเหตุของภาวะต่อมหมวกไตล้าได้เช่นกัน
โรคที่ถูกลืม
กล่าวกันว่า ภาวะต่อมหมวกไตล้าจัดอยู่ในกลุ่ม “โรคที่ถูกลืม” เพราะอาการต่างๆ ที่แสดงให้เห็นก่อนเกิดโรคยังไม่มีอันตรายร้ายแรง ทำให้ผู้ป่วยจากภาวะนี้มักไม่ได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องและทันท่วงที โดยในการวินิจฉัยต้องอาศัยการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลและดีเอชอีเอ เพื่อนำไปสู่การรักษาซึ่งก็คือ การปรับระดับฮอร์โมนทั้งสองชนิดนี้ให้สมดุล
ดังนั้น ควรสังเกตตัวเองว่าเข้าข่ายภาวะต่อมหมวกไตล้าหรือไม่ หากมีอาการมากกว่า 5 ข้อตามรายการดังต่อไปนี้
- ขี้เกียจตื่นนอนตอนเช้า
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง อยากงีบหลับ ช่วงกลางวัน
- ง่วงแต่นอนไม่หลับ
- มีอาการวิงเวียน ศีรษะ หน้ามืด เวลาเปลี่ยนท่าทางลุก-นั่ง
- อยากของหวานหรือของเค็ม
- รู้สึกดีขึ้นทันทีเมื่อได้กินน้ำตาล
- ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ
- ปวดประจำเดือนบ่อย
- ภูมิแพ้กำเริบบ่อย
- ท้องอืด อาหารไม่ย่อย
- ท้องผูก
- เครียด ซึมเศร้า
- คุมอาหาร ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่น้ำหนักไม่ลดลง
- ผิวแห้งและแพ้ง่าย
5 วิธีรักษาภาวะต่อมหมวกไตล้าด้วยตัวเอง
การรักษาภาวะต่อมหมวกไตล้าทำได้โดยปรับฮอร์โมนต่างๆ ให้กลับสู่ภาวะสมดุล ซึ่งจะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 2-3 เดือนเป็นอย่างน้อย ขึ้นอยู่กับการปรับลดความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงปรับพฤติกรรมด้วยวิธีต่อไปนี้
1.
หาวิธีพักสมอง
การห้ามไม่ให้เครียดคงยากเกินไป สิ่งที่ทำได้คือ พยายามเครียดให้น้อยที่สุด เช่น หางานอดิเรกทำ หรือออกเดินทางท่องเที่ยว เพื่อให้สมองได้พักเสียบ้าง
2.
นอนหลับอย่างมีคุณภาพ
ควรเข้านอนก่อน 5 ทุ่ม เพื่อให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายอยู่ในปริมาณเหมาะสม และนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง
3.
นอนราบระหว่างวัน
หากรู้สึกเพลีย ควรหาพื้นที่สำหรับนอนราบเพื่อพักผ่อนสักครู่ อย่าฝืนทำงานหรือเรียนทั้งๆ ที่อ่อนล้า เพราะนอกจากจะทำให้ผลงานออกมาไม่ดีเท่าที่ควรแล้ว ยังส่งผลเสียสะสมระยะยาวต่อสุขภาพ
4.
กินให้ดี กินให้ถูกวิธี
ควรกินอาหารเช้าทุกวัน และกินก่อน 10 โมง เพราะคอร์ติซอลจะทำงานดีขึ้นเมื่อมีน้ำตาลในเลือดเพียงพอ ซึ่งหลังจาก 10 โมงเช้าไปแล้วระดับคอร์ติซอลจะลดลง ทำให้ยิ่งอ่อนเพลีย
นอกจากนี้ ระหว่างวันควรแบ่งอาหารเป็นมื้อย่อยๆ กินให้น้อย แต่กินบ่อยๆ เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของร่างกาย
5.
ออกกำลังกายเบาๆ
การออกกำลังกายที่หนักเกินไปจะส่งผลให้ต่อมหมวกไตล้ามากขึ้น ควรออกกำลังกายด้วยความเพลิดเพลิน ไม่คร่ำเคร่งจนเกินไป เช่น เดินออกกำลังกายในสวน ฝึกโยคะ ฯลฯ
อ้างอิง
- ศูนย์สุขภาพนครธน.ขี้เกียจตื่นเช้า ง่วงตอนกลางวัน ชอบขนมหวาน สัญญาณเสี่ยง “ภาวะหมวกไตล้า”.https://bit.ly/3xu4QfB
- Bangkok Hospital.คุณกำลังเสพติดความเครียดหรือไม่.https://bit.ly/3BQRlcv
- ThriveWellness Center.Adrenal Fatigue หรือภาวะต่อมหมวกไตล้า.https://bit.ly/3LmTmQO