life

ผลจากการท่องไปในจักรวาลของ ลี – ฐานัฐพ์ โล่ห์คุณสมบัติ ผ่านทางอินสตาแกรม lee_thanat ของเขา ทำให้เราพบว่ากีตาร์และกล้องถ่ายรูปคือวัตถุเพียงสองชนิดที่โคจรอยู่รอบตัวลี

“ผมติดการเล่นกีตาร์มาเกือบ 20 ปี ตั้งแต่เริ่มจับกีตาร์ครั้งแรกตอนอายุ 10 ขวบ วันไหนที่ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกอยากเล่นกีตาร์ก็จะหยิบขึ้นมาเล่นทันที”

ส่วนวันไหนที่ต้องวิ่งวุ่นจนหัวหมุนกับการเรียนหรือการงานตลอดทั้งวัน ลีเลือกจะปรับจูนอารมณ์ก่อนหัวถึงหมอนด้วยการเล่นกีตาร์เช่นกัน

Blendy

“ตั้งแต่เด็กมาแล้วที่ส่วนมากผมมักจะได้เล่นกีตาร์ตอนก่อนนอนมากกว่า เพราะตอนเช้าต้องรีบตื่นไปโรงเรียน พอโตขึ้นมาก็ต้องไปทำงานทั้งวันอีก ผมเลยต้องรีแลกซ์ก่อนนอนนิดหนึ่งด้วยการเล่นกีตาร์อิมโพรไวส์ไปเรื่อยๆ ตามมู้ด วันไหนเหนื่อยจากงานมาก เสียงดนตรีก็จะออกมาหม่นๆ วันไหนรู้สึกว่าตัวเองเล่นได้ดีก็จะอัดเก็บเอาไว้”

และก็เป็นวันเหล่านั้นเองที่พลอยทำให้บรรดาแฟนคลับได้เห็นลีลาการเล่นกีตาร์ของลีจนต้องกดหัวใจให้แบบรัวๆ

เช่นเดียวกับแต่ละครั้งที่เขาลุกขึ้นมาหยิบจับกล้องเพื่อลั่นชัตเตอร์ถ่ายภาพ ที่ทำเอาหลายคนใฝ่ฝันอยากเป็นคนที่ยืนอยู่ในช่องวิวไฟน์เดอร์ที่ลีกำลังเพ่งโฟกัส และอยากมีสักหนึ่งวันที่ได้ออกเดตกับชายหนุ่มผู้มีโลกส่วนตัวสูงคนนี้

ปลดปล่อยทุกอารมณ์ด้วยเสียงดนตรี

อย่างที่เจ้าตัวบอกว่าดนตรีเป็นสิ่งที่ลีหลงใหลมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นเด็กชาย การเป็นนักแสดงจึงไม่ใช่เป้าหมายที่เขาวาดไว้ แต่ในเมื่อการเป็นร็อคสตาร์ชักจะไกลเกินเอื้อมไปทุกที และให้บังเอิญที่เขาจับพลัดจับผลูเดินสู่เส้นทางของการเป็นนักแสดงในสังกัดจีเอ็มเอ็มทีวีเสียก่อน

ชื่อของ ลี ฐานัฐพ์ จึงเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงดาวรุ่งผู้น่าจับตามองมานานกว่า 4 ปี

Blendy

“ช่วงมัธยมผมเคยฝันอยากเป็นร็อคสตาร์ อยากยืนอยู่บนเวทีเหมือนพี่ๆ วงกรูฟไรเดอร์ เล่นดนตรีให้คนได้สนุกกัน แต่สุดท้ายแล้ววงของผมก็แตกตั้งแต่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แต่ผมก็ยังเล่นกีตาร์อยู่ โดยไม่ได้ฝันอยากเป็นซูเปอร์สตาร์บนเวทีแล้ว แต่ผมเล่นดนตรีเพื่อการพักผ่อน

“ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราทุกคน ผมว่าทุกที่ล้วนมีเสียงดนตรีประกอบ หลายครั้งที่ผมฮัมเพลงตามเสียงร้องเพลงของพี่ข้างบ้านที่ฮัมเพลงตอนอาบน้ำ แล้วเราบังเอิญได้ยินพอดี” ลีเล่าถึงวิถีชีวิตที่มีเสียงดนตรีวนเวียนอยู่รอบตัว

D.I.Y. – ประดิษฐ์กีตาร์ด้วยมายเซลฟ์

มากไปกว่าการฮัมเพลง เล่นกีตาร์ หรือเปิดดนตรีบรรเลงคลอเพื่อสร้างบรรยากาศรอบตัวให้สุนทรีย์ อีกหนึ่งกิจกรรมที่เขาทำมานานเป็นสิบปี ก็คือ ประกอบกีตาร์เอง นับไปนับมาก็ปาไป 5-6 ตัวเข้าไปแล้ว

“ผมชอบงานดีไอวาย (D.I.Y.) โดยเฉพาะงานไม้ ซึ่งกิจกรรมดีไอวายอย่างเดียวที่ผมทำ ก็คือ กีตาร์ อย่างตอนนี้ผมกำลังรออะไหล่อยู่ ไม่รู้เมื่อไรจะมาส่ง” ลีเล่าถึงการรอคอยในช่วงล็อกดาวน์ เมื่อเขาไม่ต้องออกไปกองถ่าย อะไรจะดีไปกว่าการลงมือประดิษฐ์กีตาร์เองอีกสักตัว

“ผมทำกีตาร์เองมา 5-6 ตัวแล้ว เริ่มตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ผมยังไม่มีรายได้ ก็ต้องเก็บเงินค่าขนมไปซื้อวงจรไฟฟ้า แล้วเอากีตาร์ไปที่ร้านที่รู้จักกันทำให้ บอกว่าพี่เปลี่ยนอันนี้ให้หน่อย แล้วผมก็นั่งจ้องทุกขั้นตอน เพื่อจำมาลองทำเอง

“พอเข้ามหาวิทยาลัยผมก็เริ่มทำกีตาร์เอง โดยเลือกซื้อไม้สำเร็จรูปมาปรับแต่งด้วยการเอากระดาษทรายขัดให้เรียบ ทำสีเองให้ถูกใจเรา จะได้ไม่ต้องไปวิ่งตามหาว่าจะซื้อกีตาร์สีอะไร จากนั้นก็เอามาประกอบกัน เจาะรูทุกอย่างเอง เดินวงจรไฟฟ้าเอง” ลีเล่าถึงความสุขฉบับทำมือ

Blendy

“หลังจากเป็นนักแสดงแล้ว ก่อนออกจากบ้าน ผมก็จะเดินไปพ่นสีกีตาร์นิดหนึ่งก่อนขับรถไปทำงาน พอกลับถึงบ้านก็พ่นอีก จากนั้นก็ตากทิ้งไว้ วันไหนหยุดค่อยมานั่งงมกับวงจรไฟ”

ซื้อกีตาร์สำเร็จรูปก็สะดวกดี ทำไมถึงต้องลุกมาประดิษฐ์กีตาร์เอง – คนที่ไม่สันทัดด้านดนตรีคงสงสัยไม่ต่างกัน

“ผมรู้สึกว่ากีตาร์แต่ละตัว ต่อให้ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน แต่เสียงไม่เหมือนกัน ด้วยปัจจัยของไม้หรือสภาพอากาศ ผมเลยอยากรู้ว่าถ้าทำเอง เสียงของกีตาร์แต่ละตัวจะออกมาเหมือนกันไหม เลยเริ่มลองทำเอง”

จนถึงตอนนี้เขาคงรู้แล้วว่าแรงสั่นสะเทือนจากการระบายปลายนิ้วลงบนเส้นสายของกีตาร์ทำมือ ให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเมโลดี้ที่แตกต่างกันเพียงใด

Blendy

ค้นลิ้นชักความทรงจำบนแผ่นฟิล์ม

ลีเป็นหนึ่งในคนที่หลงใหลการถ่ายภาพ โดยมีจุดเริ่มต้นราวกับรักแรกพบจากการได้ยินเสียงเลื่อนฟิล์มดัง ‘แคร็ก’ จากกล้องที่เพื่อนยื่นให้เขาเป็นคนลั่นชัตเตอร์ให้

“เมื่อสองสามปีที่แล้ว ผมไปทำงานกับเพื่อนที่ต่างประเทศ แล้วเขายื่นกล้องฟิล์มมาให้ผมถ่ายรูปให้ ผมก็แอบคิดว่ายังมีคนถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มอยู่อีกเหรอ แต่พอได้ลองถ่าย ผมก็ชอบฟีลลิ่งของเสียงที่ดังแคร็กตอนเลื่อนฟิล์มทันที

“พอกลับถึงบ้าน ผมก็ถามพ่อว่าบ้านเรามีกล้องฟิล์มไหม พ่อก็หายไปในห้องประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วกลับมาพร้อมกล้องที่มีฟิล์มค้างอยู่ในนั้น พอผมเอาไปล้างอัด ปรากฏว่าฟิล์มเสียเกือบทั้งหมด ล้างออกมาได้แค่ 2 รูป เป็นรูปผมตอนอายุประมาณ 12 ขวบ ผมเลยรู้สึกว่ากล้องฟิล์มสามารถบันทึกความทรงจำบางอย่างเอาไว้ได้ยาวนาน”

Blendy

หลังจากนั้น ลีก็ซื้อกล้องฟิล์มตัวแรกเป็นของตัวเอง และตามมาอีกเรื่อยๆ ทั้งในรูปแบบแอนะล็อกและดิจิทัล ที่เขาเลือกหยิบมาพกติดตัวทุกวัน เพื่อบันทึกโมเมนต์ประทับใจเอาไว้

โดยมีข้อแม้เดียวคือ เขาไม่ชอบถ่ายภาพคน – เลย!

“ส่วนใหญ่ผมจะพกกล้องตลอด แต่จะเป็นตัวไหน แล้วแต่อารมณ์ ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยว ผมชอบถ่ายภาพทิวทัศน์บ้านเมือง แต่จะเบื่อมากเวลาเพื่อนบอกให้ถ่ายรูปให้หน่อย พอถ่ายแล้วก็ไม่ถูกใจ ผมถ่ายไปร้อยรูป มันเอารูปเดียว น่าหงุดหงิดไหมล่ะ” เขาเล่าพลางหัวเราะ

“ผมก็เลยไม่ชอบถ่ายรูปคน เน้นถ่ายรูปวิวแทน พอเวลาผ่านไปนานๆ แล้วหยิบรูปกลับมาดูอีกครั้งมักทำให้ผมเกิดความรู้สึกว่า ตอนนั้นคิดอะไรถึงตั้งค่า F เท่านี้ สปีดเท่านี้ ในหัวกำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้กดภาพนี้ออกมา”

Blendy
ภาพถ่ายจากมุมมองของลี ฐานัฐพ์

แต่ก็มีบางสถานการณ์ที่เขาพร้อมจะรัวชัตเตอร์ถ่ายภาพใครสักคนแบบไม่มีทางบ่นว่าเบื่อ

“ถ้าเป็นการไปเดต ผมยอมถ่ายร้อยรูป แล้วเขาเลือกแค่รูปเดียวนะ” เขาหัวเราะให้ระบบสองมาตรฐานของตัวเองที่ใครๆ ก็เป็น

เดตทิพย์กับฐานัฐพ์

ผมชอบปล่อยชิลไปตามสถานการณ์นะ” ลีเล่าถึงสไตล์การออกเดตตามแบบฉบับของเขา ที่หากไม่ใช่คาเฟ่สักแห่งในเมือง เขาอยากขับรถพาใครคนนั้นลัดเลาะไปตามถนนที่คดเคี้ยวไปตามขุนเขา เพื่อสัมผัสความเย็นกายสบายใจจากสีเขียวรอบตัว

“ผมรู้สึกว่าการเดตอาจจะไม่ใช่แค่การไปนั่งกินข้าวด้วยกัน แต่สามารถทำกิจกรรมอื่น เช่น ขับรถเล่นไปตามสถานที่ธรรมชาติ ฟังเพลงหรือคุยกันไปเรื่อยๆ พอถึงช่วงที่วิวสวยๆ ก็เปิดกระจกรับลม หรือจอดรถลงไปถ่ายรูปได้”

Blendy

แต่ภายใต้สภาวะการณ์ที่ยังไม่มีใครสามารถออกไปท่องเที่ยวได้ตามอำเภอใจเหมือนเมื่อก่อน เนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาดบังคับ การปรับพื้นที่ภายในบ้านให้เหมาะแก่การอยู่อาศัย และอาจรวมไปถึงการออกเดตแบบชิลๆ ตามแบบฉบับของลี ก็เป็นไอเดียดีๆ ที่ใครก็ทำได้

“หลายคู่ก็อาจจะต้องเดตกันผ่านวิดีโอคอลล์ เปิดเน็ตฟลิกซ์ดูหนังไปพร้อมกัน หรือนั่งกินข้าวผ่านหน้าจอไปด้วยกัน หรือถ้ามาเจอกันที่บ้านได้ ก็แค่ทำให้บรรยากาศในบ้านร่มรื่น ชวนให้รู้สึกรีแลกซ์ จากนั้นก็อาจจะทำอาหารเมนูง่ายๆ กินด้วยกัน หรือเตรียมเครื่องดื่มดีๆ ไว้ดื่มเพื่อเพิ่มอรรถรส ซึ่งสำหรับผมต้องเป็นกาแฟรสนุ่มๆ สไตล์ญี่ปุ่นแน่นอน”

Blendy

ลีออกตัวว่าเป็นคนติดกาแฟมาก ปกติเวลาไปทำงาน เขาต้องดื่มกาแฟ 3-4 แก้วต่อวัน และในโมงยามปกติ หนุ่มผู้รักการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจอย่างเขา ยังชอบไปแฮงเอาต์ตามคาเฟ่อยู่บ่อยๆ ทั้งเพื่อจิบกาแฟรสชาติละมุนจับคู่กับขนมอร่อย แถมยังได้ถ่ายรูปบรรยากาศสวยๆ ไปในตัว

แต่เมื่อถึงคราวที่คาเฟ่บางแห่งต้องปิดทำการชั่วคราว และการไปนั่งรับประทานอาหารนอกบ้านไม่สามารถทำได้ ลีจึงแก้ไขสถานการณ์ด้วยการหาซื้อกาแฟพร้อมดื่มรสชาติถูกปากมาแช่ตู้เย็นประจำบ้านเอาไว้ นึกอยากเติมคาเฟอีนตอนไหน ก็สามารถทำได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

“ปกติผมชอบดื่มกาแฟนม บวกกับช่วงนี้ออกไปไหนไม่ได้ ผมก็เลยตุนกาแฟพร้อมดื่ม Blendy ติดตู้เย็นที่บ้านเอาไว้เยอะหน่อย รสชาติที่ผมชอบก็คือ Blendy Cafe au Lait เพราะเป็นกาแฟนมรสนุ่ม ละมุน ดื่มง่าย สไตล์ญี่ปุ่นแบบที่ตามหาเลยครับ”

Blendy

“ส่วน Blendy Cafe Black ผมก็มีติดตู้เย็นไว้เหมือนกัน จากเดิมที่ผมไม่ชอบดื่มอเมริกาโนเลย เพราะไม่ชอบรสชาติกาแฟดำที่ส่วนใหญ่มักจะขมกระแทกคอ แต่พอได้ลองกาแฟดำรสนุ่มของเบลนดี้แล้ว บอกเลยว่าดื่มง่าย และเปิดใจผมได้ทันที”

ลีเปิดใจให้ได้รู้จักแต่ละกิจกรรมที่เขาชอบทำ และเผยถึงเครื่องดื่มเมนูโปรดขนาดนี้ ในอนาคตก็อยู่ที่ว่าสาวคนไหนจะได้เป็นผู้โชคดีที่สามารถเปิดใจลีได้ เผลอๆ อาจมีโอกาสได้เปิดประตูบ้านเพื่อเดตกับเขาในวันสบายๆ ตามแบบฉบับของหนุ่มดีไอวายคนนี้