life

พ่อแม่ต้องพบเจอกับพัฒนาการของลูกซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงวัย

และช่วงที่มักจะทำให้เกิดปัญหาหนักอกหนักใจจากความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ได้อย่างชัดเจนที่สุดคงหนีไม่พ้นช่วงวัยรุ่น

จากเด็กน้อยผู้เคยพึ่งพาการโอบอุ้มดูแลจากพ่อแม่อย่างใกล้ชิด กำลังเติบโตขึ้นและเริ่มห่างเหินออกไปเรื่อยๆ ลูกที่คุณคิดว่ารู้จักเขาดี แทบจะกลายเป็นคนแปลกหน้าเมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงวัยนี้ วัยแห่งความอิสระเสรี เป็นตัวของตัวเองสูง เชื่อมั่นในความคิดของตนเองและเริ่มหวงแหนความเป็นส่วนตัว ทั้งยังเป็นวัยที่เกิดปัญหากระทบกระทั่งกับพ่อแม่ได้ง่ายที่สุด

จะรับมือกับลูกๆ ในช่วงวัยนี้อย่างไรไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ becommon มีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

1.

รับฟังอย่างเข้าใจ

การรับฟังคือวิธีที่ดีที่สุดในการสื่อสารกับเด็กวัยนี้ ฌอน โกรเวอร์ (Sean Grover) นักจิตอายุรเวทผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเด็กและวัยรุ่น แนะนำให้พยายามเริ่มปฏิสัมพันธ์กับลูกด้วยความเข้าใจ แม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วย หรือไม่เข้าใจสิ่งที่เขากำลังพูดถึงเลยก็ตาม เมื่อพ่อแม่ตั้งใจรับฟังและให้ความสำคัญกับความคิดเห็นจากพวกเขา ความรู้สึกต่อต้านของวัยรุ่นจะลดลง และเมื่อรู้สึกสบายใจ เขาจะเป็นฝ่ายหันมาพูดคุยขอคำปรึกษาเองโดยไม่ต้องคอยไปเจ้ากี้เจ้าการ

2.

ให้การสนับสนุน

ฌอน แนะนำอีกว่าเด็กทุกวัยต้องการความสนใจจากพ่อแม่ วัยรุ่นเองก็เช่นกัน แม้จะมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงแต่ยังอยากได้รับความเห็นชอบและแรงสนับสนุนจากผู้ปกครอง พ่อแม่ควรหลีกเลี่ยงการตั้งความหวังที่อาจสร้างแรงกดดัน แล้วหันมาสนับสนุนในสิ่งที่เขาใฝ่ฝัน คอยให้กำลังใจ ไม่ซ้ำเติมหากเขาล้มเหลว และควรชมเชยในความพยายาม นอกจากจะช่วยลดความตึงเครียดแล้วยังทำให้เด็กรู้สึกนับถือทั้งพ่อแม่และตัวเองมากขึ้น

3.

ไม่วิจารณ์และเปรียบเทียบ

คำพูดของผู้ปกครองมีพลังและส่งผลต่อเด็กๆ เสมอ ไม่มีใครชอบโดนเปรียบเทียบกับคนอื่นในทางไม่ดี ฌอน แนะนำต่อไปอีกว่า แม้วัยรุ่นจะรักอิสระหรือแสดงออกด้วยที่แข็งกร้าวในบางครั้ง แต่เป็นช่วงวัยที่มีความเปราะบางอยู่ในตัว การถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือถูกเปรียบเทียบกับคนอื่นในแง่ลบอาจทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังล้มเหลว นอกจากนี้การถูกเปรียบเทียบกับคนใกล้ตัวอย่างเพื่อนหรือพี่น้องยังเป็นสาเหตุความตึงเครียดทางอารมณ์ และอาจทำให้ความสัมพันธ์ของเด็กกับคนรอบข้างแย่ลงอีกด้วย

4.

อย่าให้คำแนะนำพร่ำเพรื่อ

นักจิตอายุรเวทผู้มีประสบการณ์ตรงในการเลี้ยงดูลูกวัยรุ่นมาแล้ว 3 คน อย่าง เด๊บบี้ พินคัส (Debbie Pincus) กล่าวไว้ในบทความ 5 Secrets for Communicating With Your Teenager ใจความว่า คำแนะนำที่มากเกินไปมักจะให้ผลตรงกันข้าม โดยเฉพาะการแนะนำที่เหมือนออกคำสั่ง หลีกเลี่ยงการบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวและสั่งให้เขาทำในแบบที่คุณเห็นสมควร แต่จงปล่อยให้ลูกจัดการปัญหาด้วยตัวเองโดยไม่ลืมทำให้เขารู้ว่ายังมีคุณอยู่ข้างๆ และพร้อมให้ความช่วยเหลือเสมอ

5.

ไม่ใช้อารมณ์

หากผู้ปกครองเป็นฝ่ายเริ่มใช้อารมณ์กับวัยรุ่นด้วยความใจร้อนก่อน ย่อมมีแนวโน้มจะทำให้ลูกใช้อารมณ์กับคุณเช่นกัน เด๊บบี้ แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการพูดคุยเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่ในสภาวะอารมณ์ไม่ปกติ เพราะนอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้วยังจะนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงมากกว่าเดิม บางครั้งวัยรุ่นอาจแสดงอาการไม่พอใจ ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นจากใคร สิ่งที่พ่อแม่ควรมีคือความใจเย็น รอเวลาที่เหมาะสมแล้วค่อยจับเข่าคุยกันทั้ง เมื่อพ่อแม่ใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ลูกเองก็จะได้เรียนรู้การยับยั้งชั่งใจ ถือเป็นวิธีขัดเกลาเขาไปในตัวด้วย

อ้างอิง

  • Carl E Pickhardt. Parenting Adolescents and Keeping a Healthy Perspective. https://bit.ly/30sGEJn
  • Debbie Pincus. 5 Secrets for Communicating With Your Teenager. https://bit.ly/2OamQbm
  • Sean Grover. 5 Things Parents Do to Enrage Teenagers. https://bit.ly/3cq58cb
  • Susan Heitler. 5 Tips for Being the Parent All Teens Would Love to Have. https://bit.ly/3rqzqBJ