นักเขียน
กลุ่มนักเขียนวายกับนิยายทำมือ เมื่อสำนักพิมพ์ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย พวกเขาจึงกลายเป็น self-publisher
เมื่อเบื่อขั้นตอนส่งผลงานที่ยุ่งยาก ถูกปฏิเสธต้นฉบับจากสำนักพิมพ์ แต่ก็ไม่อยากทิ้งผลงานที่ตัวเองทุ่มเท ทำให้นักเขียนตัวเล็กๆ มารวมตัวกันและพิมพ์หนังสือขายเอง
‘Sammon’ คุณหมอนักเขียนที่เชื่อว่านิยายวายคือนิยายทั่วไปที่มีตัวเอกเป็น LGBTQ+
จากเด็กรักการอ่านคนหนึ่งที่มีความฝันอยากเป็นนักเขียนสู่ชีวิตที่หันเหไปเป็นหมอ พูดคุยกับ ‘Sammon’ คุณหมอนักเขียนวาย ผู้หวังว่างานเขียนของเธอจะเป็นพลังเล็กๆ ที่ทำให้สังคมมอง LGBTQ+ ด้วยความยอมรับมากขึ้น
‘แดเนียล แฮนด์เลอร์’ และนามปากกา เลโมนี สนิกเก็ต นักเขียนผู้เกลียดบทสรุป Happy Ending
The Writer’s Room No. 13 ห้องใต้หลังคา โซฟา และกระดาษกลาดเกลื่อนโต๊ะของแดเนียล แฮนด์เลอร์
‘เจมส์ บอลด์วิน’ นักเขียนผู้จุดไฟแห่งความหวังให้เกิดขึ้นในใจคนผิวดำและคนชายขอบ
The Writer’s Room No. 09 ห้องของ ‘เจมส์ บอลด์วิน’ เจ้าของนวนิยายเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศและสีผิว
‘จอร์จ ออร์เวลล์’ บุรุษผู้ท้าทายการเมืองและอำนาจอยุติธรรม ด้วยวรรณกรรมในห้องเคล้ากลิ่นบุหรี่
The Writer’s Room No. 08 ห้องของ ‘จอร์จ ออร์เวลล์’ เจ้าของผลงานนวนิยายสะท้อนสังคมและการเมืองอย่าง 1984 และ Animal Farm
‘สตีเฟน คิง’ เด็กชายผู้เคยถูกขังในตู้สู่นักเขียนผู้สร้างความกลัวในห้องแคบที่ต้องหันโต๊ะเข้าผนัง
The Writer’s Room No. 07 ห้องของ ‘สตีเฟน คิง’ เจ้าของผลงานนิยายสยองขวัญอย่าง It (อิท) และ Pet Sematary (กลับมาจากป่าช้า)
ห้องที่มีกำแพงเป็นช่องเก็บแผ่นเสียงของ ‘ฮารูกิ มูราคามิ’ นักเขียนผู้หลงรักดนตรีแจ๊ส
The Writer’s Room No. 06 ห้องของ ‘ฮารูกิ มูราคามิ’ เจ้าของผลงาน Norwegian Wood (1987) ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย
ห้องที่ต้องมีโต๊ะ 2 ตัวของ ‘มาร์กาเร็ต แอตวูด’ เจ้าของนวนิยายดิสโทเปียเล่มสำคัญของโลก
The Writer’s Room No. 05 ห้องของ ‘มาร์กาเร็ต แอตวูด’ เจ้าของผลงาน The Handmaid’s Tale (1985) และ The Testaments (2019)
ห้องสะสมความทรงจำของ ‘โรอัลด์ ดาห์ล’ นักเล่าเรื่องผู้เป็นแรงบันดาลใจให้เด็กรักการอ่าน
The Writer’s Room No. 04 ห้องของ ‘โรอัลด์ ดาห์ล’ เจ้าของผลงาน Charlie and the Chocolate Factory (1964) และ The Witches (1983) ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้เด็กทุกคนรักการอ่าน